สธ.เผยไทยเจอโอไมครอนพันธุ์ BA.2 ถึง 95.9% คาดไม่เกิน 2 สัปดาห์เจอทั่วไทย

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้แถลงว่าภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย BA.2 ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันโอไมครอนเป็นตัวหลัก การระบาดและกลายพันธุ์ย่อยเป็น BA.1 และ BA.2 เพราะฉะนั้นการตรวจเฝ้าระวังและการศึกษาเรื่องของภูมิเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งยอดรวมสะสมโควิดกว่า 3 ล้านคน สำหรับสถานการณ์เฝ้าระวังสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า BA.2 ขึ้นไปถึง 95.9% เหลือ BA.1 แค่ 4% และคาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ เกือบ 100% จะเป็น BA.2 เพราะแพร่เร็วกว่า ส่วนเดลตาแทบไม่เหลือแล้ว

สำหรับการฉีดวัคซีนไม่ว่าสูตรไหนก็ตาม ภูมิที่ลบล้างฤทธิ์ไวรัสโอไมครอน BA.2 จะสูงกว่าพันธุ์ BA.1  ซึ่งหมายความว่าภูมิจัดการ BA.2 ได้มากกว่า BA.1 ดังนั้น ที่กังวลว่า BA.2 จะหลบวัคซีนได้มากน่าจะไม่จริง ดังนั้นหากฉีดมานาน ภูมิคุมกันอาจตกลง แต่ขณะที่ผู้ฉีดวัคซีน 3 เข็ม หรือบูสเตอร์ ภูมิกลับขึ้นสูงขึ้นพอสมควร จึงเป็นสาเหตุต้องให้ฉีดเข็ม 3

ทั้งนี้จากข้อมูลหากเลยไปประมาณ 1 เดือน คนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็มภูมิแทบไม่เหลือเฉลี่ย 11 นิดๆ คัดพอยต์อยู่ที่ 10 ป้องกันได้ ส่วนแอสตราฯ กับแอสตราฯ ขึ้นไปประมาณ 26 ซึ่ง 1 เดือนเหลือแค่นี้ หากกินเวลา 2-3 เดือนก็จะเหลือยิ่งน้อย แต่หากถูกบูสเตอร์ด้วยเข็มที่ 3 เช่น ซิโนแวค 2 เข็ม เติมด้วยแอสตราฯ หรือไฟเซอร์ ก็จะเป็น 61 และ 94 ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร อยู่ในระดับที่พอจะช่วยป้องกันโรคได้