“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” สั่งบีโอไอออกมาตรการ ดันไทยเป็นฮับการลงทุน

694
0
Share:

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายแก่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ว่า ต้องการให้บีโอไอใช้โอกาสจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกสร้างจุดเด่นให้กับไทยเพื่อดึงดูดการลงทุนในอนาคต ซึ่งไทยมีจุดเด่นในเรื่องเกษตร อาหาร บริการทางการแพทย์และเครื่องมือแพทย์ การท่องเที่ยว ,โลจิสติกส์ ภาคบริการ และดิจิทัล โดยมีเป้าหมายต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางกลุ่มประเทศ CLMVT
.
นอกจากนี้อยากให้จัดทำนโยบายส่งเสริมกลุ่ม สมาร์ทฟาร์มเมอร์ เพื่อให้เกิด Local Economy เนื่องจากช่วงที่เกิดโควิด-19 มีคนกลับภูมิลำเนากันมาก โดยมีการช่วยเหลือด้านโลจิสติกส์ หรือเครื่องจักรทางการเกษตร เป็นต้น ซึ่งบีโอไอแจ้งว่า อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของญี่ปุ่นต้องการมาลงทุนในไทยแล้ว
.
อย่างไรก็ตามในช่วง 5 ปี ข้างหน้า จะต้องเร่งสร้างผู้ประกอบการไทย กลุ่มสตาร์ทอัพ ให้เป็นระดับยูนิคอร์น ที่ยอดขายระดับ 1,000 ล้านบาท ให้สามารถเข้าตลาดหุ้นและเติบโตได้ จากเดิมที่เน้นการดึงลงทุนจากต่างประเทศ ดังนั้นจะต้องมีมาตรการช่วยเหลืออะไรได้บ้าง โดยให้เน้นอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป
..
ด้านน.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า การลงทุนในปีนี้ลดลงแน่นอนเหมือนประเทศอื่นๆทั่วโลก แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยบีโอไอยังคงยึดนโยบายหลักคือการ ดึงลงทุนจากต่างประเทศ หรือ FDI โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายแต่จะเพิ่มนโยบายการผลักดันไทยสู่ศูนย์กลาง CLMVT โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่จะมีการปรับปรุงเพิ่มประเภทกิจการเช่น Plant Factory และเงื่อนไขส่งเสริมด้านสิทธิประโยชน์บางกิจการเพิ่มเติมซึ่งขณะนี้นักลงทุนโดยเฉพาะญี่ปุ่นสนใจเข้ามามาก รวมถึงการปรับปรุงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ซึ่งจะเสนอเข้าสู่บอร์ดบีโอไอวันที่ 17 มิ.ย.นี้