สวรรค์นักชิม!  ปักหมุด 12 ร้านมิชลิน ไกด์ ในย่านราชประสงค์ ย่านแห่งความอร่อยระดับโลก

398
0
Share:

ย่านราชประสงค์หรือแบงคอก ดาวน์ทาวน์ (Bangkok Downtown)” จุดหมายปลายทางของทุกไลฟ์สไตล์ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นสายช้อป สายมู หรือสายกิน แค่แวะมาที่ย่านราชประสงค์ ก็จะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมทั้งจากห้างสรรพสินค้าที่มีตั้งแต่แบบขายส่งจนถึงลักชัวรี  โรงแรมชั้นนำ ห้องพักสุดหรู พร้อมบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน องค์เทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีให้ขอพรความเป็นสิริมงคลถึง 8 จุด นอกจากนั้นสิ่งที่หลายคนไม่รู้ คือ ราชประสงค์ยังเป็นย่านที่รวมร้านมิชลินทั้งจากในไทย และต่างประเทศมากที่สุดในประเทศไทย กว่า 30 ร้าน อาทิ อิกนีฟ แบงคอก, กินซ่า ซูชิ อิชิ, แคมส์ โรสต์, บิสก็อตติ, เอราวัณ ที รูม, ไฟร์เพลส กริลล์ แอนด์ บาร์, อูโนมาส, ติ่น ไท่ ฟง, แสนยอด, ซงฟา บักกุ๊ดเต๋, บ้านเบญจรงค์ ปาย, เกตุโอชา และอีกมากมาย

ซึ่งรางวัลมิชลินนั้น เป็นรางวัลที่ร้านอาหารและเชฟจากทั่วโลกล้วนปรารถนา และอาจเรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักชิมที่ต่างเฝ้ารอไปพิสูจน์ความสุดยอด ทั้งในแง่ รสชาติ คุณภาพ ความคุ้มค่า และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละร้านอาหาร ซึ่งรางวัลมิชลินจะมีการแบ่งประเภท เพื่อลงรายละเอียดความโดดเด่นของแต่ละร้าน ได้แก่ รางวัลมิชลินสตาร์ (Michelin Star) , รางวัลมิชลินเพลท (The Plate Michelin) และ รางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Michelin Bib Gourmand) โดยวันนี้จะขอนำคุณไปทำความรู้จัก 12 ร้านแนะนำที่ได้รับรางวัลมิชลินแต่ละประเภทในย่านราชประสงค์

ประเภทรางวัล มิชลินสตาร์ (Michelin Star) รางวัลสูงสุดของมิชลินไกด์บุ๊ค

แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ มิชลินสตาร์ 1 ดาว สำหรับร้านอาหารคุณภาพสูง ที่ควรค่ากับการหยุดแวะชิม มิชลินสตาร์ 2 ดาว สำหรับร้านอาหารยอดเยี่ยม ที่ควรค่ากับการขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม และ มิชลินสตาร์ 3 ดาว สำหรับสุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง  อาทิ

1) อิกนีฟ แบงคอก (IGNIV Bangkok) ห้องอาหารไฟน์ไดน์นิ่ง ก่อตั้งโดยเชฟแอนเดรียส คามินาดา เชฟชาวสวิตเซอร์แลนด์ผู้โด่งดังจากการคว้ารางวัลมิชลิน 3 ดาว ให้กับร้านอาหาร Schloss Schauenstein โดยอิกนีฟ แบงคอก เป็นสาขาแรกนอกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ และในปี 2022 ได้คว้ารางวัลดาวมิชลินดวงแรกมาครอง

อิกนีฟ แบงคอก ห้องอาหารไฟน์ไดน์นิ่งแบบแชร์ริ่ง เต็มไปด้วยความอบอุ่น เป็นกันเองและการบริการที่เอาใจใส่ นำโดยเชฟเดวิด ฮาร์ดวิก เชฟอาเน่ รีน และเรจินา เดอซูซา ผู้จัดการห้องอาหาร ผู้ซึ่งเป็นหัวเรือคนสำคัญของการนำตัวตนและจิตวิญญาณของอิกนีฟอย่างแท้จริงมาสู่มื้ออาหารและประสบการณ์ของผู้ที่มารับประทานอาหารทุกท่าน โดยเมนูอาหารของทางร้านจะถูกเปลี่ยน 4 ครั้งต่อปี ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว อิงตามฤดูกาลของวัฒนธรรมฝั่งยุโรป เพื่อให้ได้ลิ้มลองวัตถุดิบตามฤดูกาลที่จะออกผลผลิตและมีรสชาติดีที่สุดเฉพาะในช่วงเวลานั้น สำหรับเมนูฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้ เชฟเดวิด ฮาร์ทวิก ได้แรงบันดาลใจจาก วันขอบคุณพระเจ้า และวันฮาโลวีน ที่เฉลิมฉลองในมหานครนิวยอร์ก โดยเลือกใช้วัตถุดิบประจำฤดูกาล และวัตถุดิบสุดพิเศษ อาทิ เนื้อกวาง เนื้อแก้มหมู ฟัวกราส์ ชีสกรูแยร์ กุ้งแลงกูสทีน คาเวียร์ ถั่วเฮเซล และอีกมากมาย ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่รอให้คุณมาลิ้มลองเมนูใหม่ๆ ประจำฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี

ที่ตั้ง: ชั้น 1 โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ

สอบถามข้อมูลหรือสำรองที่นั่ง: 02 207 7822

2) กินซ่า ซูชิ อิชิ (Ginza Sushi Ichi) ร้านซูชิโอมากาเสะต้นตำรับสไตล์เอโดะมาเอะ ส่งตรงจากย่านกินซ่า กรุงโตเกียว มายัง เกษร วิลเลจ แม้เมนูซูชิโอมากาเสะของที่นี่อาจจะดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความละเมียดละไมที่รังสรรค์โดยเชฟชาวญี่ปุ่น ซึ่งทางร้านยึดมั่นในการคัดสรรเพียงวัตถุดิบที่ดีที่สุด สดใหม่ ส่งตรงจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ข้าวพันธุ์ดีจากจังหวัดอาคิตะ การใช้สูตรน้ำปรุงรสข้าวซูชิเหมือนกับสาขาหลักที่โตเกียว โดยเฉพาะ 2 วัตถุดิบหลักที่เป็นหัวใจของร้าน อย่าง  ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna) และ อูนิ (Sea Urchin) ที่แขกทุกท่านสามารถมั่นใจในคุณภาพได้ เพราะทางร้านจะเสิร์ฟเฉพาะวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีให้ทานเท่านั้น

ที่ตั้ง: ชั้น 3 เกษร เซ็นเตอร์, เกษรวิลเลจ

สอบถามข้อมูลหรือสำรองที่นั่ง: 02 250 0014

3) แคมส์ โรสต์ (KAM’S ROAST) ที่สุดของตำนานเมนูอาหารย่างสไตล์ฮ่องกง โดยทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล Kam ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 70 ปี การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ถึง 9 ปีซ้อน เมนูแนะนำ ได้แก่ ห่านและเป็ดย่าง ที่ผ่านกรรมวิธีการทำหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการหมัก การย่าง การผึ่ง ด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน นอกจากนี้หมูหันของที่นี่ก็ขึ้นชื่อ เพราะความพิถีพิถันแบบที่เชฟต้องนั่งเฝ้าระหว่างการย่าง และอีกเมนูที่ห้ามพลาดอย่างเมนูเป็ดผีผา เป็ดย่างสูตรพิเศษที่ผ่านการหมักด้วยซอสและเครื่องเทศ ผสมกับเปลือกส้มจีนที่มีอายุ 23 ปี ทำให้ เนื้อนุ่ม หนังกรอบ เสิร์ฟคู่กับซอสพิเศษ อีกทั้งยังมีเมนูหมูกรอบ หมูแดง ที่เลือกใช้เนื้อหมูชั้นดี ย่างในสไตล์ฮ่องกง ที่มีทั้งกลิ่นหอมอร่อย และรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากใครที่อยากลิ้มลองรสชาติของ แคมส์ โรสต์ โดยไม่ต้องบินไปถึงฮ่องกง ก็แวะมาร้านที่ย่านราชประสงค์ได้เลย

ที่ตั้ง: ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

สอบถามข้อมูล: 02 004 7718

หมายเหตุ: ขณะนี้ยังไม่มีเมนูห่านย่างจำหน่าย เนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดหาวัตถุดิบให้ได้ตามมาตรฐานของทางฮ่องกง

ประเภทรางวัล มิชลินเพลท (The Plate Michelin) ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ และปรุงอาหารอย่างพิถีพิถัน

4) บิสก็อตติ (Biscotti) ห้องอาหารไฟน์ไดน์นิ่งร่วมสมัย รสชาติอิตาเลียนแท้ ที่เปิดมายาวนานตั้งแต่ปี 1998 ตั้งอยู่ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับรางวัลมิชลินเพลทมาถึง 4 ปีซ้อน และได้รับคัดเลือกให้อยู่ในคู่มือมิชลิน ไกด์ฉบับกรุงเทพมหานคร 2023 อีกหนึ่งปี จุดเด่นของร้านนี้คือแขกที่มาทานอาหารที่ร้าน จะได้เพลิดเพลินกับศิลปะในการจัดเตรียมและปรุงอาหารของเชฟเควิน มอนเตอร์ฟาโน หัวหน้าเชฟแห่งห้องอาหารบิสก็อตติ และเชฟท่านอื่นๆ อย่างใกล้ชิด ระหว่างรับประทานอาหาร จากครัวที่ดีไซน์เป็นแบบเปิดโล่ง บริเวณตรงกลางร้าน และ ทางร้านยังโดดเด่นในเรื่องการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีในการรังสรรค์เมนู โดยทางร้านมีเมนูไฮไลท์ อาทิ ซิกเนเจอร์ฟอคคาเซีย เนื้อสไลด์สไตล์อิตาลีสูตรพิเศษ สเต็กปลาค็อดซอส Puttanesca สเต็กเนื้อวากิว A5 เทนเดอลอยที่นุ่มละลายในปาก เป็นต้น

ที่ตั้ง: ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

สอบถามข้อมูลหรือสำรองที่นั่ง: 02 126 8866

5) เอราวัณ ที รูม (Erawan Tea Room) ห้องอาหารไทยระดับตำนานของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ที่เสิร์ฟอาหารไทยในรสชาติดั้งเดิม ทุกเมนูปรุงจากวัตถุดิบและเครื่องปรุงจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ที่ผ่านการคัดสรรมาแล้วว่าต้องคุณภาพดีที่สุด และมาจากแหล่งผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงไม่แปลกใจที่ห้องอาหาร เอราวัณ ที รูมจะคู่ควรกับรางวัลมิชลินเพลท เมนูแนะนำของร้าน อาทิ ข้าวผัดเอราวัณ ข้าวผัดสูตรเฉพาะหอมกรุ่น ข้าวเม็ดร่วนกำลังดีและเนื้อปูก้อนชิ้นโต แกงคั่วปูเห็ดแครงใบชะพลู แกงไทยรสชาติจัดจ้านสูตรดั้งเดิมของห้องอาหารที่เสริมรสชาติด้วยเนื้อปูสด เห็ดแครง และใบชะพลู เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่อัญชันสีสวย นอกจากนี้ยังมีเมนู กุ้งแม่น้ำย่างราดซอสมะขาม ปูทะเลผัดผงกะหรี่ ยำส้มโอปูนิ่มทอดกรอบ ที่แนะนำให้มาลิ้มลอง ส่วนเมนูอาหารหวานที่พลาดไม่ได้ คือ สาคูเปียกน้ำกะทิ และไอศกรีมข้าวหอมมะลิ ที่ถือเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออร่อยได้อย่างลงตัว นอกจากนั้นแล้ว อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเอราวัณ ที รูม ซึ่งเป็นที่จดจำของแขกทุกท่านที่แวะมา ก็คือชุดน้ำชายามบ่ายแบบไทย ซึ่งทางร้านเลือกสรรชาชั้นดี เสิร์ฟเป็นชุดพร้อมกับขนมไทยสุดพรีเมียมนานาชนิด

ที่ตั้ง: ชั้น 2 aเอราวํณ แบงค็อก

สอบถามข้อมูลหรือสำรองที่นั่ง: 02 254 1234