สิงห์ เอสเตท โกยรายได้ครึ่งปีแรก 6,843 ล้าน ลุยบ้านลักชัวรี 5 โครงการหมื่นล้าน

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ประกาศรายได้รวมจำนวน 6,843 ล้านบาท และรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำจากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA)ที่ 1,493 ล้านบาท พุ่งขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยถึงแผนในครึ่งปีหลังต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 หลักคือโครงการที่พักอาศัยจำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรม ที่วางเป้าหมายรายได้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุ 10,000 ล้านบาท โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะเติบโตจากอุปสงค์การเดินทางที่จะฟื้นตัวอีกครั้ง และการขยายตัวของธุรกิจการบินที่มีสัญญาณการเปิดเส้นทางบินใหม่ในครึ่งปีหลัง

โดยตามแผนครึ่งปีที่เหลือตามแผนคือเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท โดยบ้านเดี่ยวโครงการแรกจะเริ่มเปิดตัวในเดือนกันยายน

สำหรับรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ประกอบด้วย

– ยอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยสะสม 6 เดือนจำนวน 1,172 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการเปิดตัว “ลาซัวว์ เดอ เอส” โครงการ Cluster Home ระดับอัล ตร้าลักชัวรีแบรนด์ใหม่และถือเป็นโครงการแฟล็กชิพของสิงห์ เอสเตท ด้วยสถิติราคาขายสูงสุดถึงกว่า 550 ล้านบาทต่อหลัง
– รายได้จากการขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 36 ล้านบาท
– การรับรู้ค่าเช่าของโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ ตามสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาวจำนวน 175 ล้านบาท โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญากับผู้เช่ารายอื่นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการปล่อยเช่าระยะยาว เพื่อรักษาระดับอัตราการปล่อยเช่าให้ผันผวนต่ำ ท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงจากอุปทานพื้นที่เช่าที่ทยอยเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

ขณะที่ทิศทางการเติบโตสูงสุดของธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะในไตรมาส 4 จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ 4,821 ล้านบาท เนื่องจากการท่องเที่ยวทั่วโลกขยายตัวดีตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สอดคล้องการเปิดประเทศทั่วโลก จากจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้งของโรงแรมของ SHR ที่อยู่ในจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยว อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) ของทั้งพอร์ตโฟลิโอที่ปรับสูงขึ้นถึงประมาณ 70% ในครึ่งปีแรกของปี 2566 ด้วยอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ที่เพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน

ด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ที่ยังคงเดินหน้าตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง โดยครึ่งปีแรกมีรายได้จำนวน 508 ล้านบาทค่อนข้างทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากการทยอยรับรู้รายได้ภายหลังการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ของอาคารเอสโอเอซิส (S OASIS) ซึ่งมีพื้นที่เช่ามากกว่า 53,000 ตารางเมตร ส่วนธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าที่เตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ช่วงปลายปีนี้