สื่อยักษ์ต่างชาติวิเคราะห์หากไม่ลงตัว-ประท้วงแรง กลายเป็นข้ออ้างการยึดอำนาจ

สำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ระดับโลก ได้นำเสนอ งานวิเคราะห์ของสภาที่ปรึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ Council on Foreign Relations หรือ CFR เป็นสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยการวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งและกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย ว่า หนึ่งในสาเหตุที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดทพรรคก้าวไกลไม่ได้รับการเลือกจากสมาชิกวุฒิสภา โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภาสายทหารนั้น เนื่องจากความพยายามที่ต้องการจะแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ดังนั้น ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จะมีการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 จึงมีแนวโน้มว่านายพิธาจะได้รับการปฏิเสธอีกครั้งหนึ่ง

CFR เปิดเผยบทวิเคราะห์ต่อไปว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการประนีประนอมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อจะให้เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ส่งผลทำให้เป็นที่ยอมรับของสมาชิกวุฒิสภาได้มากกว่าแคนดิเดตจากพรรคก้าวไกล อีกทั้งพรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปกฎหมายมาตรา 112 และปฏิรูปกองทัพน้อยกว่าพรรคก้าวไกลมาก เมื่อเปรียบเทียบกับพรรคก้าวไกลที่ให้คำมั่นในเรื่องนโยบายที่ใช้หาเสียงกับการปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่

นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาซึ่งทํางานเป็นกลุ่ม 250 คนและสอดคล้องกับพรรคเสียงข้างน้อยในสภาล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารอาชีพ อาจเต็มใจที่จะหานายกรัฐมนตรีที่มีจุดยืนทางฝั่งทหาร ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเสียงข้างน้อย

ถ้าหากเหตุการณ์ที่ว่ามานี้เกิดขึ้น จะถือได้ว่าาเป็นลางร้ายอย่างมาก เนื่องจากคนไทยจำนวนมากลงคะแนนเสียงให้กับพรรคก้าวไกล หรือกรณีที่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลกำลังถูกเพิกเฉย ทำให้ไม่อาจแน่ใจได้เลยว่า การประท้วงที่รุนแรงอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าหากการลงคะแนนครั้งที่ 2 ยังให้ผลลัพธ์ที่เหมือนเดิมกับครั้งที่ 1

CFR เปิดเผยบทสรุปทิ้งท้ายว่า การตอบสนองต่อการประท้วง หรือแม้แต่การตอบสนองอย่างรุนแรงต่อพรรคก้าวไกลที่ต้องการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ทั้งหมดนี้ อาจเป็นข้ออ้าง หรือเหตุผลของกองทัพไทยในการก่อรัฐประหารขึ้นอีกครั้งหนึ่ง