‘สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์’ลั่นรัฐบาลคุมโควิดได้แล้ว จ่าย “เราชนะ” แค่ 2 เดือนพอ

569
0
Share:

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน โพสต์เฟสบุ๊คว่า โครงการ “เราชนะ” หมุนเงิน 2.1 แสนล้านบาท ให้กระจายทั่วระบบเศรษฐกิจฐานราก
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติโครงการเราชนะ ช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน 31 ล้านคน คนละ 3,500 บาท/ เดือน เป็นเวลา 2 เดือน คือ กุมภาพันธ์และมีนาคม รวมเป็นเงิน 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีการลงทะเบียนทางเว็บไซต์ WWW.เราชนะ.com ในวันที่ 29 มกราคมนี้เงิน 2.1 แสนล้านบาท จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า เพราะถูกกระจายหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจหลายรอบ

คนที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจะมีมากกว่า 31 ล้านคน เพราะคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนจะได้ประโยชน์จากการจับจ่ายใช้สอยของคนที่ได้รับสิทธิ 31 ล้านคนไปโดยอัตโนมัติ เศรษฐกิจฐานรากที่เดินหน้าไปได้แล้วเมื่อช่วงปลายปี แต่มาสะดุดเพราะการระบาดรอบใหม่ จะเกิดโมเมนตัมให้ขับเคลื่อนต่อไปได้ ผมขออธิบายวิธีคิดของรัฐบาลในเรื่องนี้สั้นๆ ครับ โจทย์ของเราคือ ทำอย่างไรให้เงิน 2 แสนล้านบาทนี้
.
นอกจากจะช่วยบรรเทาภาระของผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรงแล้ว ยังขยายผลต่อเนื่องให้ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจระดับฐานราก หรือระดับชาวบ้านให้ขับเคลื่อนไปได้ นอกจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาด หาบเร่ แผงลอย ร้านอาหาร ร้านขายของชำ คนขับแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ จะได้รับเงินจากโครงการเราชนะเองโดยตรงแล้ว ยังมีรายได้เพิ่มจากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนผ่านโครงการด้วย
เราจึงเลือกวิธีให้ “สิทธิ” แทน “เงินสด” โดยรัฐบาลจะโอนเงินผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ให้ผู้ได้รับสิทธิเดือนละ 3,500 บาท นำเงินใน เป๋าตัง ไปซื้อของกินของใช้ที่จำเป็น พาครอบครัวไปกินอาหาร หรือจะใช้จ่ายค่าแท็กซี่ ค่าวินมอเตอร์ไซค์ ก็ได้ ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และร้านสะดวกซื้อ
.
ด้วยวิธีนี้ เงิน 2.1 แสนล้านบาทที่รัฐบาลอัดฉีดเข้าระบบเศรษฐกิจจึงไม่หายไปไหน แต่จะถูกหมุนไปอีกหลายรอบ ทำให้เกิดการบริโภคภายในประเทศต่อเนื่องไปเป็นลูกโซ่ ตลอดระยะเวลา 2 เดือน คนตัวเล็กๆ ที่เป็นเจ้าของกิจการ จะมีรายได้มากขึ้น จากเงินที่ถูกส่งผ่านโครงการ “เราชนะ” คนที่ไม่ได้ลงทะเบียนรับสิทธิ แต่มีกิจการเล็กๆ หรือขับแท็กซี่ ก็จะได้ประโยชน์ด้วย
.
รัฐบาลมั่นใจว่าระยะเวลา 2 เดือนจะเพียงพอ เพราะสถานการณ์การระบาดรอบใหม่ตอนนี้ดีขึ้นมาก เราควบคุมได้แล้ว ดูจากตัว R (Reproduction Number) คืออัตราการแพร่เชื้อของผู้ติดเชื้อแล้ว จากที่เคยสูงถึง 7 ต่อ 1 คือคนติดเชื้อ 1 คน แพร่เชื้อไปให้คนได้ 7 คน ตอนนี้ลดลงมาต่ำกว่า 1 ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัย คือ 0.37 เท่านั้น
ผมมั่นใจว่าเราชนะแน่ ชนะการระบาดรอบใหม่ และชนะปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าช่วง 2 เดือนต่อจากนี้