หนี้ใหม่ปูด! แบงก์ชาติเติมหนี้ 4 รายการใหม่ ดันหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งกระฉูดกว่า 90%
นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยว่า แบงก์ชาติทำการปรับปรุงจำนวนหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยให้ครอบคลุมในทุกส่วนมากขึ้น จึงทำให้ต้องนำหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ซึ่งไม่เคยนำมาคิดรวมกันนั้นเข้ามาด้วย ทำให้วงเงินกู้ยืมในภาคครัวเรือน 4 กลุ่มเข้ารวมในความหมายของหนี้ครัวเรือนมีมูลค่ารวม 776,000 ล้านบาท ได้แก่ หนี้กองทุนการกู้ยืมเพื่อการศึกษา 483,000 ล้านบาท หนี้เงินกู้ยืมสหกรณ์อื่นที่ไม่ใช่สหกรณ์ออมทรัพย์ 265,000 ล้านบาท หนี้กู้ยืมการเคหะแห่งชาติ 11,000 ล้านบาท และหนี้กู้ยืมพิโกไฟแนนซ์ 6,000 ล้านบาท
การรวมหนี้อีก 4 ประเภทใหม่เข้าไปในความหมายหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้มูลค่าหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2566 พุ่งขึ้นมาเป็น 16 ล้านล้านบาท หรือพุ่งขึ้นเป็น 90.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ที่เคยมีหนี้ครัวเรือนที่ระดับ 86.9% ของจีดีพีประเทศ
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค แบงก์ชาติ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องรวมหนี้ 4 ประเภทใหม่นั้น เนื่องจากต้องการให้ครอบคลุมทุกประเภทหนี้กู้ยืมทั้งหมดที่คนไทยกู้ยืมมา ที่สำคัญมีความน่าเชื่อถือของข้อมูลหนี้ประเภทใหม่ อย่างไรก็ตาม หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 90% ในไตรมาส 1 ปีนี้ ไม่ได้เป็นหนี้ที่ก่อขึ้นใหม่ในไตรมาสที่ 1 แต่อย่างใด แต่เป็นหนึ้กู้ยืมในระบบที่มีมาในไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมา เพียงแต่ไม่ได้นำมารวมกันในนิยามหนี้ครัวเรือน
นายสักกะภพ กล่าวต่อไปว่า โครงสร้างหนี้ครัวเรือนหลังเปลี่ยนแปลงใหม่นั้น ยังใกล้เคียงเดิม โดยดูได้จากในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ หนี้ครัวเรือนชะลอตัวลงจากไตรมาส 4 ปีที่แล้วเพียงเล็กน้อย สาเหตุจาก หากนำประเภทหนี้ 4 กลุ่มใหม่เข้าไปรวมในไตรมาส 4 ปี 2565 จะทำให้หนี้ครัวเรือนนิยามใหม่ในช่วงนั้นเพิ่มจาก 86.9% ขึ้นมาเป็น 91.4% ในขณะที่ไตรมาสที่ 1 ปีนี้ มูลค่าหนี้ครัวเรือนตามนิยามใหม่อยู่ที่ 90.6%
ทั้งนี้ แบงก์ชาติมีความกังวลสถานการณ์หนี้ครัวเรือนต่อเนื่องอยู่แล้ว และอยู่ระหว่างการเพิ่มเติมมาตรการเพื่อดูแลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม สำหรับหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มประเภทหนี้ใหม่ในครั้งนี้ แบงก์ชาติยืนยันไม่ได้กังวลเพิ่มขึ้นมาก เพราะไม่ใช่หนี้ใหม่ แต่จะเร่งติดตามแก้ปัญหาใกล้ชิด
