หมอธีระ ย้ำ!! โควิดไม่ใช่โรคกระจอก หลังยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 124 ล้านคนแล้ว

415
0
Share:

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก รายงานยอดผู้ติดเชื้อ วันนี้สถานการณ์ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 124 ล้าน ในขณะที่บราซิลเกิน 12 ล้านไปอย่างรวดเร็ว ฝรั่งเศสน่าจะแซงสหราชอาณาจักรขึ้นอันดับ 5 ได้ในวันพรุ่งนี้ เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 416,255 คน รวมแล้วตอนนี้ 124,238,424 คน ตายเพิ่มอีก 7,037 คน ยอดตายรวม 2,733,916 คน

.

อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 42,435 คน รวม 30,560,432 คน ตายเพิ่มอีก 468 คน ยอดตายรวม 555,757 คน // บราซิล ติดเพิ่ม 49,293 คน รวม 12,047,526 คน วันเดียวตายเพิ่มสูงถึง 1,383 คน มากที่สุดในโลก ขณะนี้ยอดเสียชีวิตรวม 295,425 คน // อินเดีย เข้าสู่การระบาดระลอกสองเต็มตัว การติดเชื้อไต่ระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดเพิ่ม 40,581 คน รวม 11,686,300 คน // รัสเซีย ติดเพิ่ม 9,284 คน รวม 4,466,153 คน // สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 5,342 คน รวม 4,301,925 คน

.
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ตุรกี และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลักหมื่นต่อวัน // แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น // แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย แนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นชัดเจน ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า ในขณะที่แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพัน
// เกาหลีใต้ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนเมียนมาร์ สิงคโปร์ ไทย ฮ่องกง และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่จีน เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

.

นอกจากนี้อเมริกาดูเหมือนว่าจะมีอาวุธป้องกันโรคโควิด-19 มากที่สุดและพยายามเร่งฉีดวัคซีนที่มีสรรพคุณสูง ทั้ง Pfizer/Biontech, Moderna, และ J&J โดยได้ฉีดไปเกิน 100 ล้านโดสเเล้วประชาชนได้ฉีดเเล้วกว่า 81 ล้านคน ซึ่ง 44 ล้านคนได้รับวัคซีนครบเเล้ว แต่ก็ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดแต่การที่มีวัยรุ่นจำนวนมากไปท่องเที่ยวชายหาดช่วง school break ดังที่เห็นในข่าวว่ามีความแออัดใกล้ชิดและไม่ได้ป้องกันตัว ดังนั้นในอีกสัปดาห์อาจเห็นจำนวนการติดเชื้อของอเมริกาเพิ่มขึ้นได้

.

ทางด้านอิสราเอลก็ใช้วัคซีน Pfizer/Biontech ตอนนี้มีประชากรถึงร้อยละ 52 ที่ได้รับวัคซีนไปครบแล้ว ยอดติดเชื้อต่อวันอยู่หลักร้อย ซึ่งวัคซีนที่เป็นอาวุธเพื่อใช้ในการป้องกันโรคนั้น จำเป็นต้องมีสรรพคุณที่ดีพอ ที่จะป้องกันการติดเชื้อ ป้องกันการเจ็บป่วย และลดอัตราการตายหรือความรุนแรง สู้กับไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่กลายพันธุ์ได้ และมีข้อมูลความปลอดภัยที่ละเอียดครบถ้วน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ผ่านการวิจัยมาตรฐานสากลและได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง แต่หากอาวุธที่เราใช้นั้นมีข้อจำกัดด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้าน ก็จำเป็นที่จะต้องบอกแจ้งให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อจะได้ตระหนักว่าจะรับหรือไม่รับ

.

นอกจากนี้ หากมีสรรพคุณจำกัดดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เช่น ฉีดแล้วก็ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ ได้แต่ลดความรุนแรงหรืออัตราการป่วยการตาย แถมยังสู้กับสายพันธุ์ไวรัสที่กลายพันธุ์ต่าง ๆ ไม่ได้ ดังนั้นก็จะไม่ใช่กระสุนวิเศษที่จะใช้กล่าวอ้างเพื่อผลักดันนโยบายหรือมาตรการที่เปิดรับความเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำมาสู่ภายในประเทศ เพราะการระบาดในขณะนี้ชี้ให้เห็นว่า “โควิดไม่ใช่โรคกระจอก”