หอการค้าไทยจับมือ 3 เครือข่าย ระบายสินค้าเกษตรล้นตลาดกว่า 2.4 ล้านตัน

987
0
Share:

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย ได้ร่วมมือกลุ่มซีพี ออลล์ แก้ปัญหาผลผลิตสินค้าประเภทพืช ผัก ผลไม้ ล้นตลาดและราคาตกต่ำ รวมถึงผลกระทบด้านจัดจำหน่าย ทั้งตลาดภายในประเทศและการส่งออกไปต่างประเทศจากสถานการณ์โควิด-19
.
ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังกลุ่มเกษตรกรที่เป็นสมาชิกและเครือข่ายของหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่า มีผักและผลไม้จากเกษตรที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น มะม่วง ส้ม สับปะรด ลำไย ลองกอง มะพร้าว ลิ้นจี่ โดยมีผลผลิตรวมกว่า 2.4 ล้านตันในเฟสแรก โดยส่งข้อมูลให้ กลุ่มซีพี ดำเนินการลงพื้นที่เพื่อรับซื้อผลผลิตอย่างต่อเนื่อง
.
อย่างไรก็ตามซีพี ออลล์ โลตัส และแม็คโคร ยินดีให้การสนับสนุนรับซื้อผลผลิตดังกล่าว เพื่อมาจำหน่ายในช่องทางต่าง ๆ ของบริษัทต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้ว เช่น ซีพี ออลล์ รับซื้อ “ถั่วลายเสือ” จากวิสาหกิจชุมชนแม่ฮ่องสอน ขายผ่านร้านเซเว่นฯ โลตัส รับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้ จากชมรมผู้ผลิตมะม่วงเชิงธุรกิจ จ.พิจิตร-พิษณุโลก โดยผ่านการแนะนำจากประธานหอการค้าจังหวัดพิจิตรและกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงทับไทร จ.พิจิตร แม็คโคร ติดต่อกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ส่งออกมะม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งมีเกษตรกรกว่า 60 ราย
.
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาว่า มีความร่วมมือกับหอการค้าไทย ในการส่งเสริมผู้ประกอบการหลายกิจกรรม เช่น โครงการ Big Brother โครงการ Business Accelerator
.
นอกจากนั้น ซีพี ออลล์ ยังมอบโอกาสด้านธุรกิจ ด้วยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทยได้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปทั่วประเทศ สร้างโอกาสในการเป็นคู่ค้าธุรกิจกับซีพี ออลล์ เช่น เกษตรกร ผู้ปลูก “กล้วยหอมทอง” เป็นกลุ่มที่ได้รับโอกาสทางธุรกิจการจำหน่ายผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ
.
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแม็คโครมีคู่ค้าที่เป็นผู้ผลิตเอสเอ็มอี จำนวน 2,000 ราย และมีคู่ค้าที่เป็นเอสเอ็มอี ประเภทเกษตรกรรายย่อยอีกกว่า 7,000 ราย ซึ่งในแต่ละปีแม็คโครได้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรเข้าสู่สาขาทั่วประเทศ จำนวนกว่า 1.7 แสนตันคิดเป็นมูลค่า 5,500 ล้านบาท นอกจากนี้ แม็คโครมีส่วนร่วมในการให้ความรู้และเป็นแหล่งกระจายสินค้าเอสเอ็มอีไทยสู่ประเทศอาเซียน
.
สำหรับปี 2564 นี้ คาดว่าจะรับซื้อผักและผลไม้เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 20% ทั้งมุ่งเน้นพัฒนาเกษตรกรให้ได้รับมาตรฐาน GAP เพิ่มขึ้นจาก 1,200 ราย เป็น 1,400-1,500 ราย โดยแม็คโครมีการเปิดศูนย์กระจายสินค้าย่อย เพื่อรับซื้อสินค้าโดยตรงจากเกษตกรในภูมิภาคต่าง ๆ มากกว่า 6 แห่งทั่วประเทศ
.
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา เกษตรกรจำนวนมากประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ ประกอบกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายสินค้าเกษตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในเบื้องต้น โลตัสจะร่วมมือกับหอการค้าไทย รับซื้อมะม่วงกว่า 1,000 ตันจากกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในเครือข่ายของหอการค้า นอกจากนั้น ตลอดทั้งปีนี้ โลตัสจะเดินหน้ารับซื้อผักและผลไม้เพิ่มขึ้น 10,000 ตันจากปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนเกษตรกรทั่วประเทศ