ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในญี่ปุ่นปิดห้างวันนี้ พนักงานแห่ประท้วงครั้งแรกในรอบ 60 ปี

เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้ง คอมพานี ยักษ์ใหญ่เครือข่ายค้าปลัดชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น บรรลุข้อตกลงขายกิจการห้างสรรพสินค้าชื่อดัง 2 แบรนด์ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าโซโก้ (Sogo) และห้างสรรพสินค้าเซบุ (Seibu) ให้กับฟอร์เตสส์ กลุ่มบริษัทลงทุนชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยมูลค่ารวม 220,000 ล้านเยน หรือ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 52,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ราคาขายดังกล่าวกลับต่ำกว่าราคาขายที่เสนอในการเจรจาครั้งแรกถึง 30,000 ล้านเยน หรือกว่า 7,500 ล้านบาท

การขายกิจการห้างสรรพสินค้าเป็นผลสำเร็จดังกล่าว ทำให้สมาชิกสหภาพแรงงานจาก 15 กลุ่มสหภาพแรงงาน รวมตัวกันเพื่อชุมชนประท้วงด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซบุ ในเขตอิเกบูกูโระ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเกรงว่าจะมีการลดพนักงาน จึงผละงานประท้วง 1 วัน ในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของพนักงานห้างแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1962 เป็นต้นมา

การชุมชนประท้วงผละงานดังกล่าวไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และทำให้กลายเป็นข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์ระดับชาติ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์มารายงานสดด้านหน้าห้างสรรพสินค้า และเฮลิคอปเตอร์บินวนถ่ายภาพจากมุมสูง

ห้างสรรพสินค้าเซบุ ในเขตอิเกบูกูโระ กรุงโตเกียว มีลูกค้ามากถึงปีละ 70 ล้านคน เพื่อเดินจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ ในอาคารสูง 14 ชั้น ซึ่งขายตั้งแต่อาหารอย่างซูชิ ไปจนถึงสินค้าแบรนด์เนมหรูหราอย่างอาร์มานี โดยเปิดขายสัปดาห์ละ 7 วัน ห้างเซบุ เป็นเครือห้างสรรพสินค้าเซบุและโซโก ที่มีห้างรวมแล้ว 10 แห่งทั่วญี่ปุ่น มีเจ้าของคือ เซเว่นแอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์

อย่างไรก็ตาม อาคารอายุ 83 ปี ในเชตอิเกบูกูโระ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงใหม่และบริษัทไม่ทำกำไรมาเป็นเวลา 5 ปี ทำให้เซเว่นแอนด์ไอ ต้องการขายกิจการให้กับฟอร์เตสส์ กลุ่มบริษัทลงทุนของสหรัฐห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นประสบปัญหาในช่วงไม่กี่ปีมานี้ในการปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงของวิธีการจับจ่ายซื้อของของผู้บริโภค