“อนุทิน” บอกโควิดระบาดเป็นไปตามคาด ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นลดความรุนแรงได้ กำชับกุมารแพทย์เจอเด็กตาแดง ตาแฉะตรวจ ATK ทุกราย สูงวัยรับวัคซ๊นเข็ม 4 แค่ 11 % ย้ำสู้ XBB ต้องถึง 4 เข็ม

266
0
Share:

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์โควิด-19 ว่า รับทราบข้อมูลฝ่ายการแพทย์ว่าสถานการณ์ยังอยู่ในความควบคุมของระบบสาธารณสุข การติดเชื้อที่มากขึ้นเป็นไปตามหลักเพราะไม่ได้มีมาตรการข้อห้าม มีการเดินทางและทำกิจกรรมต่างๆ ดังนั้น การติดเชื้อเป็นไปตามคาดการณ์ไว้ แต่ความรุนแรงไม่เพิ่มขึ้นมาก เพราะประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันทั้งจากการติดเชื้อและฉีดวัคซีนมากแล้ว ทำให้ความรุนแรงลดลง แม้มีสายพันธุ์XBB

โดยในทางการแพทย์บอกว่า ไวรัสกลายพันธุ์เกิดได้ตลอดเวลา เชื้อตัวที่กลายพันธุ์แล้วแข็งแรงก็กลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ ตัวที่ไม่แข็งแรงก็ถูกทำลายไป แต่วัคซีนที่มีการฉีดเข็มกระตุ้น มีประสิทธิลดความรุนแรงของอาการป่วย และเสียชีวิต ฉะนั้น กลุ่มเสี่ยง 608 ควรมารับเข็มกระตุ้น และผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนเลยควรมารับวัคซีน ส่วนประชาชนทั่วไปหากเข็มสุดท้ายนานเกิน 6 เดือนแล้ว สธ.เชิญชวนให้เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มีภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อมากขึ้น

“โควิดเป็นโรคตามฤดูกาล ต้องมีการรับวัคซีนทุกปี และมีการพัฒนาสรรคุณให้ป้องกันเชื้อในทุกปี ได้สั่งการให้หน่วยบริการสาธารณสุข จัดตั้งแผนกบริการฉีดวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งคณะกรรมการวิชาการให้ความเห็นว่าสามารถรับพร้อมกันได้ทั้งวัคซีนโควิด-19และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะให้บริการฟรีทั้ง 2 ชนิดกับกลุ่มเสี่ยง โดยได้มอบหมายให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) คิดแพ็คเกจในการให้บริการคู่เพื่อให้ประชาชนมารับบริการ โดยปีนี้ไม่ต้องตั้งงบประมาณในการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19เพิ่มเติม ยังมีเพียงพอในการฉีดเข็มกระตุ้น”นายอนุทินกล่าว

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปีก่อนเข้าฤดูฝน ซึ่งจะเริ่มฉีดในปี 2566 เป็นปีแรก โดยฉีดปีละ 1 เข็ม สามารถใช้วัคซีนชนิดใดหรือรุ่นใดก็ได้ กรมได้มีการจัดเตรียมวัคซีนให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และได้มีการจัดหาวัคซีนรุ่นใหม่สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่อายุ 12 ปีขึ้นไปด้วย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการฉีดโควิด-19 ได้ที่หน่วยบริการตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำหนดไว้ สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสังกัดของสธ.ใน กทม. ได้แก่ ศูนย์บางรัก โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันโรคผิวหนัง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรงพยาบาลสงฆ์ และสถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี

ขณะที่ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ศิริรราชพยาบาล กล่าวว่า จากผลการศึกษาพบว่า คนไทยมีภูมิคุ้มกันแล้วจากการติดเชื้อและฉีดวัคซีนแล้ว 94 % เมื่อมีภูมิคุ้มกันเป็นพื้นฐานแล้ว ก็จะต้องกระตุ้นเป็นระยะในจังหวะที่ภูมิคุ้มกันลดลง เพราะฉะนั้นการได้วัคซีนจำเป็นต้องได้ 3-4 เข็ม ทำให้ปกป้องหรือป้องกันสายพันธุ์กลายพันธุ์ได้ดี แต่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นสูงวัย รับเข็ม 3 อยู่ที่ 44 % เข็มที่ 4 อยู่ที่ 11 % และยิ่งอายุน้อยลงยิ่งอัตราน้อย อายุ 12-17ปี เข็ม 3 อยู่ที่ 25 % เข็ม 4 อยู่ที่ 0.9 % อายุ 5-11ปี เข็ม 3 อยู่ที่ 4 % เข็ม 4 อยู่ที่ 0.1 % และอายุ 6 เดือน-4ปี เข็ม 3 อยู่ที่ 1 % เข็ม 4 ไม่มี