อาเซียนร่วมมือตั้ง”กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19”

640
0
Share:

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุม สุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ ว่าด้วยการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงต่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสถาบันวิจัยเอกชนชั้นนำอย่างแม็กคินซี่ได้คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของจีดีพีโลกในปีนี้อาจจะติดลบถึง ร้อยละ 1.5 และหากวิกฤตโควิด-19 ยืดเยื้อต่อไป ก็อาจจะติดลบไปถึงร้อยละ 4.7 ซึ่ง UNDP ระบุว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยอาจสูญเสียรายได้กว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
.
โดยไทยได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 และจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ให้ความสำคัญกับการรับมือและแก้ไขปัญหาและ ให้ความสำคัญกับการรักษาผู้ป่วย และเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจ
.
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไม่มีประเทศใดสามารถต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ได้โดยลำพัง พร้อมได้กล่าว เสนอแนวทางที่สำคัญ 5 ประการ ดังนี้
.
1. อาเซียนต้องร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม พร้อมเสนอให้อาเซียน และประเทศบวกสามร่วมกันจัดตั้ง “กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 (คาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 13.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ) โดยจัดสรรเงิน ที่มีอยู่แล้วเท่าที่สามารถตกลงกันได้ มาใช้ในการรับมือกับโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการจัดซื้อชุดตรวจ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และอุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนเพื่อการศึกษาวิจัยคิดค้นยาและวัคซีน ให้อาเซียนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
.
2. อาเซียนต้องร่วมกันในการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ การผ่านพิธีการศุลกากร และการค้าชายแดนระหว่างกัน เพื่อให้ผู้บริโภคของเราได้เข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสินค้าที่จำเป็นในช่วงวิกฤติอย่างเพียงพอและทันท่วงที
.
3. เราควรสนับสนุนให้อาเซียนใช้เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีใหม่ๆ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคให้มากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้เร่งรัดการเชื่อมโยงการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการใช้มาตรฐานรหัสคิวอาร์ที่เชื่อมโยงกันได้ ให้การค้าภายในภูมิภาคของเรามีความ คล่องตัวมากขึ้น
.
4. ขอเสนอให้อาเซียนถอดบทเรียนและประสบการณ์จากการต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับ ความท้าทายต่างๆ ที่อาจคุกคามชีวิตของประชาชนในอนาคต โดยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากภายในและการพึ่งพาตนเองของภูมิภาคในระยะยาวให้มากขึ้น
.
5. เราควรเสริมสร้างบทบาทของท่านเลขาธิการอาเซียนในการเป็นผู้ประสานงานการให้ความช่วยเหลือให้ครอบคลุมถึงสถานการณ์วิกฤตอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างมีระบบ และทันเหตุการณ์
.
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมเวียดนาม ในฐานะประธานอาเซียนที่มีบทบาทในการเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียนในการตอบสนองต่อโควิด-19 อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเข้าสู่ครอบครัวอาเซียนอีกด้วย