เกือบ 5 เดือนแรก คนไทยกลับมาแลกเงินต่างชาติพุ่งเดือนละกว่า 30%

583
0
Share:
แลกเงินตราต่างประเทศ เกือบ 5 เดือนแรก คนไทย กลับมา แลกเงิน ต่างชาติ พุ่งเดือนละกว่า 30%

นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ริชเคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) หรือ ซุปเปอร์ริช สีส้ม เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์แลกเงินตราต่างประเทศ เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น สาเหตุจากการที่ต่างประเทศมีการเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลให้มียอดแลกเงินตราต่างประเทศมีสูงขึ้น

สำหรับสัดส่วนยอดแลกเงินสกุลต่างประเทศโดยรวมเพิ่มขึ้น 170% นับตั้งแต่มกราคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2565 เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน นอกจากนี้ 2 สกุลเงินต่างประเทศที่มีปริมาณ และสัดส่วนมากที่สุด คือ เงินดอลลาร์ และเงินเยน โดยเฉพาะเงินเยนที่มีการแลกซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 100% หรือ มียอดแลกเงินต่อวันสูงสุด เกิน 20-30 ล้านเยน ซึ่งมากกว่าสต็อกของบริษัทที่เตรียมไว้ จนต้องซื้อเงินเยนจากผู้ขายในต่างประเทศ เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าให้เพียงพอ สาเหตุจากเงินเยนเทียบเงินบาทร่วงอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 20 ปี นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวตั้งแต่มิถุนายนนี้ ส่งผลให้เงินเยน ขึ้นมาเป็นสกุลเงินที่มียอดแลกเงินมากที่สุดเป็นอันดับ 3 จากเดิมอยู่ในอันดับ 4-5 ในอดีต

ดังนั้น จึงส่งผลให้ยอดแลกเงินโดยรวม ฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับ 30-40% แล้ว หากเทียบกับระดับก่อนเกิดโควิด-19  ซึ่งคาดว่าปีนี้จะค่อยๆ เป็นการฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับสู่ 60-70% ได้ในปีนี้ หรือมียอดแลกเงินแตะระดับ 70,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเติบโตกว่า 150% หากเทียบกับปีก่อน ที่มียอดแลกเงินต่างประเทศเพียง 10,000 ล้านบาท ล่าสุด มียอดแลกเงินเข้ามาแล้วราว 30,000-40,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เติบโตมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทต้องเร่งปรับตัว เพื่อรับกับเทรนด์ใหม่เช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันการถูกดีสรัปชัน ทั้งการปรับตัวไปสู่ดิจิทัล โดยล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเปิดให้บริการอัตราแลกเปลี่ยนผ่านวอลเล็ตที่คาดว่าจะได้ใบอนุญาตในปีนี้ เช่นเดียวกับการให้บริการธุรกิจการโอนเงินไปต่างประเทศ หรือ money transfer เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนโอนเงินไปต่างประเทศ ลดปัญหาโพ้ยก๊วนต่างๆ ในระยะข้างหน้า