เงินบาทเปิดตลาด 36.07 บาทต่อดอลลาร์ แนะจับตานักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทย

163
0
Share:
เงินบาท เปิดตลาด 36.07 บาทต่อดอลลาร์ แนะจับตานักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทย

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยภาวะตลาดเงินว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.07 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.13 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.95-36.20 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทแม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าสวนทางกับแนวโน้มที่คาดการณ์ไว้ คาดว่ามาจากแรงขายของผู้เล่นในตลาด อาทิ ผู้ส่งออกในจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 36.30 บาทต่อดอลลาร์ และบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดก็อาจช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อได้บ้าง แต่คงมุมมองเดิมว่าควรระมัดระวังแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทที่เริ่มเพิ่มมากขึ้น โดยเห็นแรงขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น และการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยก็เริ่มมีสัญญาณอ่อนแรงลง

นอกจากนี้ ควรจับตารายงานดัชนีภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ เพราะหากออกมาดีกว่าคาดไปมาก ก็อาจทำให้ตลาดมองว่า ภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่ได้ชะลอตัวลงหนัก อาจจะหนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หรือ “Good news could be Bad news for the market” หากออกมาแย่ไปมากก็อาจทำให้ตลาดกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งก็จะช่วยหนุนให้เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นได้

ผู้เล่นในตลาดควรระมัดระวัง รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุด ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้ในช่วงระหว่างที่รับรู้และตีความรายงานการประชุมดังกล่าว โดยประเด็นสำคัญที่ตลาดจะให้ความสนใจคือจุดสูงสุดของดอกเบี้ยสหรัฐจะอยู่ที่เท่าใด หลังประเด็นอัตราการขึ้นดอกเบี้ยเริ่มชัดเจนมากขึ้นว่าอาจชะลออัตราการเร่งขึ้นดอกเบี้ยลงเหลือ 0.50%

ทั้งนี้ ประเมินว่าโซนแนวต้านของเงินบาทยังอยู่ในช่วง 36.30 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าบรรดาผู้ส่งออกต่างรอจังหวะทยอยขายเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงดังกล่าว ในขณะที่โซนแนวรับก็จะอยู่ในช่วง 35.90 บาทต่อดอลลาร์ โดยคาดว่าผู้นำเข้าอาจทยอยเข้ามาซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายเดือนตามภาระที่ต้องจ่าย คาดว่าการค้าระหว่างประเทศของไทยอาจได้รับผลกระทบจากภาพเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยยอดการส่งออกอาจโตเพียง 5.5% ส่วนยอดการนำเข้ายังโตกว่า 10% ทำให้ดุลการค้าเดือนตุลาคม อาจกลับมาขาดดุลถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์