เงินบาทเปิด 34.66 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด

170
0
Share:
เงินบาท เปิด 34.66 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.66 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.92 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคและทิศทางตลาดโลก เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์ หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อคืนนี้ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยประเมินว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงปลายเดือนนี้อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกเป็นครั้งสุดท้าย เพราะก่อนหน้านี้ได้ปรับดอกเบี้ยขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงกว่าเงินเฟ้อแล้ว

“ทิศทางบาทวันนี้อาจแข็งค่าน้อยกว่าภูมิภาค หลังปรับตัวแข็งค่าลงมาเร็ว เนื่องจากมีปัจจัยการเมืองภายในประเทศคอยกดดัน ทั้งการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ และการชุมนุมโดยรอบ” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.55-34.85 บาท/ดอลลาร์

ด้านนักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ 13 ก.ค. 66 ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.67 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.91 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.60-34.75 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้ผลการโหวตเลือกนายกฯและมองกรอบเงินบาทที่ระดับ 34.50-35.00 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้ผลการโหวตเลือกนายกฯ

โดยในช่วงคืนก่อนหน้าค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานต่างชะลอลงกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า เฟดอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ย

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น ก็เป็นไปตามมุมมองของเราที่คาดว่า เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงได้บ้าง หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI สหรัฐฯ ชะลอตัวลง ซึ่งเรามองว่า ปัจจัยภายนอก อย่างทิศทางเงินดอลลาร์อาจไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปมากนัก โดยเงินดอลลาร์ก็อาจแกว่งตัวsideway หรือย่อตัวลงได้บ้าง (ต้องระวัง หากตลาดปิดรับความเสี่ยง Risk-Off เงินดอลลาร์ก็อาจแข็งค่าขึ้นได้) ทำให้ปัจจัยที่จะมีผลต่อทิศทางค่าเงินบาทและความผันผวนของค่าเงิน คือปัจจัยการเมืองไทย ซึ่งต้องรอลุ้นผลการโหวตเลือกนายกฯ ในวันนี้

โดยเราประเมินว่า โมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา อาจถูกชะลอได้และอาจเห็นโมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทเพิ่มมากขึ้น หากความวุ่นวายการเมืองไทยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีที่คุณพิธา แคนดิเดตจากพรรคก้าวไกลและพรรคพันธมิตรขาดเสียงสนับสนุนเกินกว่า 50 เสียง (เราให้โอกาสกรณีนี้มากที่สุด หรือเป็น Base case) ซึ่งจะสะท้อนความเสี่ยงว่า ทางฝั่งพรรคก้าวไกลและพรรคพันธมิตรอาจจะต้องปรับเปลี่ยนแคนดิเดต หรือสุดท้ายก็อาจเกิดการปรับรูปแบบของการจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยเรามองว่า ในกรณีนี้เงินบาทมีโอกาสกลับมาอ่อนค่าลงทดสอบโซน 35 บาทต่อดอลลาร์ได้อีกครั้ง และมีโอกาสอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวได้ไม่ยาก หากสถานการณ์การเมืองส่อเค้ามีการชุมนุมประท้วงผลการโหวตเลือกนายกฯ

ทั้งนี้ หากคุณพิธา ขาดเสียงสนับสนุนไม่มาก เช่น 20 เสียง เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจไม่ได้กังวลต่อสถานการณ์การเมืองมากนัก แต่ก็ยังเป็นปัจจัยที่อาจกดดันต่อเงินบาทได้บ้าง โดยเราคาดว่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงเล็กน้อยกลับสู่โซน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ได้

และในกรณีสุดท้าย หากผลการโหวตเลือกนายกฯ ราบรื่น และคุณพิธาได้รับเลือกเป็นนายกฯ คนใหม่ (โอกาสเกิดน้อยที่สุด แทบเป็นไปไม่ได้ในมุมมองของเรา) ตลาดการเงินก็อาจเปิดรับความเสี่ยงสินทรัพย์ไทยมากขึ้น หนุนให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อทดสอบโซน 34.40 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก