เงินบิทคอยน์ปิดขึ้นเหนือ 22,000 ดอลลาร์ หลังอเมริกาขึ้นดอกเบี้ย

243
0
Share:

ตลาดซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซี เอเชีย วันนี้ 28 กรกฎาคม 2565 เวลา 7.15 น. ตามเวลาไทย ค่าเงินบิทคอยน์เคลื่อนไหวที่ระดับ 22,837 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 844,969 บาท +1,935 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 71,595 บาท หรือ +9.26% ทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์สูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ตรงกับวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา รายงานว่า ค่าเงินบิทคอยน์ปิดที่ระดับ 22,717.05 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 840,530 บาท +1,457.27 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 53,919 บาท หรือ +6.85% ทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์สูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ผ่านมา

ค่าเงินบิทคอยน์พุ่งทะยานขึ้นถึง 29.1% เมื่อเทียบจากราคาปิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 ที่ระดับ 17,592.78 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 650,932 บาทต่อบิทคอยน์ ซึ่งเป็นราคาปิดต่ำสุดในรอบปีนี้

สาเหตุจากผลการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่ 0.75% เป็นไปตามที่คาดการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ บรรยากาศตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ที่เต็มไปด้วยแรงซื้อหุ้นทุกกลุ่มหลังความชัดเจนในการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเมื่อคืนผ่านมา นอกจากนี้ ความกังวลที่ภาวะตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีจะซบเซาต่อเนื่องเริ่มมีจำกัดเมื่อเทียบกับช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดภาวะสูญเสียความมั่นใจในการลงทุนหลังจากแพลทฟอร์มการซื้อขาย การปล่อยสินเชื่อเพื่อลงทุนในเงินคริปโทเคอร์เรนซีล้วนประสบวิกฤตถึงขั้นล้มละลายหลายแห่ง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ค่าเงินบิทคอยน์มีระดับราคาต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 17,592.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บิทคอยน์ หรือกว่า 615,747 ดอลลสหรัฐ/บิทคอยน์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ธันวาคม 2563

ในช่วงที่ผ่านมานั้น ปัจจัยลบอื่นๆ ที่ถาโถมเข้าใส่ตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีประกอบด้วยหลายอย่าง ได้แก่ นักลงทุนถอนการลงทุนออกจากสินทรัพย์การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญภาวะถดถอยครั้งใหญ่ และการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่มากถึง 0.75% ในกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งมากสุดในรอบ 28 ปี ปัจจัยต่อมา คือการขาดความเชื่อมั่น หรือขาดความมั่นใจต่อการลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลก รวมถึงการขาดความไว้วางใจในแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซียักษ์ใหญ่ของโลกหลายแห่ง

นอกจากนี้ กองทุนสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีชื่อดัง 3AC กำลังเข้าสู่ภาวะขาดเงินทุน หรือสภาพคล่อง ทำให้ถูกศาลพิจารณาสั่งให้กองทุน 3AC ทำการขายทรัพย์สินเพื่อนำรายได้ทั้งหมดมาตัดชำระหนี้

เซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ (Celsius Networks) แพลตฟอร์มปล่อยกู้เงินคริปโทเคอร์เรนซี ประกาศระงับบริการถอน การแลกเปลี่ยน และการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดเป็นชั่วคราว เนื่องจากตลาดมีความผันผวนรุนแรง ค่าเงินเซลเซียสดำดิ่งจาก 7 ดอลลาร์สหรัฐมาเหลือเพียง 33 เซนต์ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังถูกเทขายตกต่ำกว่า 50% ในสัปดาห์ผ่านไป

คอยน์เบส (Coinbase) แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของคอยน์เบสตกต่ำมากถึง 11% ในวันจันทร์ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นปิดตลาดทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่เข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในดัชนีหุ้นนาสแดค ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนเมษายน ปี 2021

ไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลก และใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศยุติบริการถอนเงินบิทคอยน์ออกจากแพลทฟอร์มไบแนนซ์เมื่อต้นสัปดาห์นี้เป็นเวลานาน 3 ชั่วโมง โดยให้เหตุผลว่า มีปริมาณธุรกรรมจำนวนมากทำให้เกิดปัญหาธุรกรรมการลงทุนคงค้างเป็นจำนวนมาก

บริษัทสตาร์ทอัพด้านเงินคริปโทเคอร์เรนซี ล้วนประกาศแผนตัดลดต้นทุนดำเนินกิจการอย่างรุนแรง ท่ามกลางตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีเผชิญความตกต่ำของสกุลเงินดิจิทัลทั่วตลาด บล็อคไฟ ประกาศปลดพนักงาน 20% จากจำนวนทั้งหมด ก่อนหน้านี้ เมื่อสิ้นปี 2563 มีจำนวนพนักงาน 150 คน ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น มากกว่า 850 คน

คริปโต ดอทคอม ประกาศปลดพนักงาน 260 คน หลังจากเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวได้รับสิทธิการใช้สเตเดี้ยมบาสเกตบอลของทีมชื่อดังในลีกเอ็นบีเอ ลอส แองเจลิส เลคเกอร์ ด้วยมูลค่าสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 24,500 ล้านบาท

เจมินี (Gemini) ประกาศปลดพนักงาน 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ก่อนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายนตามเวลาในสหรัฐอเมริกานั้น มูลค่าตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกสูญหายรุนแรงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 70 ล้านล้านบาท ขณะที่ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมานั้น นักลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซีต้องถูกบังคับขาย เพื่อชำระหนี้สูงถึง 435,500,000 บาท หรือราว 15,243 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินบิทคอยน์ 202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7,070 ล้านบาท และเงินอีเธอเลียม 144.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,058 ล้านบาท

ตลาดซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซี เอเชีย วันนี้ 28 กรกฎาคม 2565 เวลา 7.15 น. ตามเวลาไทย ค่าเงินบิทคอยน์เคลื่อนไหวที่ระดับ 22,837 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 844,969 บาท +1,935 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 71,595 บาท หรือ +9.26% ทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์สูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ตรงกับวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา รายงานว่า ค่าเงินบิทคอยน์ปิดที่ระดับ 22,717.05 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 840,530 บาท +1,457.27 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 53,919 บาท หรือ +6.85% ทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์สูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ผ่านมา

ค่าเงินบิทคอยน์พุ่งทะยานขึ้นถึง 29.1% เมื่อเทียบจากราคาปิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 ที่ระดับ 17,592.78 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 650,932 บาทต่อบิทคอยน์ ซึ่งเป็นราคาปิดต่ำสุดในรอบปีนี้

สาเหตุจากผลการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่ 0.75% เป็นไปตามที่คาดการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ บรรยากาศตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ที่เต็มไปด้วยแรงซื้อหุ้นทุกกลุ่มหลังความชัดเจนในการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเมื่อคืนผ่านมา นอกจากนี้ ความกังวลที่ภาวะตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีจะซบเซาต่อเนื่องเริ่มมีจำกัดเมื่อเทียบกับช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดภาวะสูญเสียความมั่นใจในการลงทุนหลังจากแพลทฟอร์มการซื้อขาย การปล่อยสินเชื่อเพื่อลงทุนในเงินคริปโทเคอร์เรนซีล้วนประสบวิกฤตถึงขั้นล้มละลายหลายแห่ง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ค่าเงินบิทคอยน์มีระดับราคาต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 17,592.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บิทคอยน์ หรือกว่า 615,747 ดอลลสหรัฐ/บิทคอยน์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ธันวาคม 2563

ในช่วงที่ผ่านมานั้น ปัจจัยลบอื่นๆ ที่ถาโถมเข้าใส่ตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีประกอบด้วยหลายอย่าง ได้แก่ นักลงทุนถอนการลงทุนออกจากสินทรัพย์การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญภาวะถดถอยครั้งใหญ่ และการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่มากถึง 0.75% ในกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งมากสุดในรอบ 28 ปี ปัจจัยต่อมา คือการขาดความเชื่อมั่น หรือขาดความมั่นใจต่อการลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลก รวมถึงการขาดความไว้วางใจในแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซียักษ์ใหญ่ของโลกหลายแห่ง

นอกจากนี้ กองทุนสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีชื่อดัง 3AC กำลังเข้าสู่ภาวะขาดเงินทุน หรือสภาพคล่อง ทำให้ถูกศาลพิจารณาสั่งให้กองทุน 3AC ทำการขายทรัพย์สินเพื่อนำรายได้ทั้งหมดมาตัดชำระหนี้

เซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ (Celsius Networks) แพลตฟอร์มปล่อยกู้เงินคริปโทเคอร์เรนซี ประกาศระงับบริการถอน การแลกเปลี่ยน และการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดเป็นชั่วคราว เนื่องจากตลาดมีความผันผวนรุนแรง ค่าเงินเซลเซียสดำดิ่งจาก 7 ดอลลาร์สหรัฐมาเหลือเพียง 33 เซนต์ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังถูกเทขายตกต่ำกว่า 50% ในสัปดาห์ผ่านไป

คอยน์เบส (Coinbase) แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของคอยน์เบสตกต่ำมากถึง 11% ในวันจันทร์ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นปิดตลาดทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่เข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในดัชนีหุ้นนาสแดค ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนเมษายน ปี 2021

ไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลก และใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศยุติบริการถอนเงินบิทคอยน์ออกจากแพลทฟอร์มไบแนนซ์เมื่อต้นสัปดาห์นี้เป็นเวลานาน 3 ชั่วโมง โดยให้เหตุผลว่า มีปริมาณธุรกรรมจำนวนมากทำให้เกิดปัญหาธุรกรรมการลงทุนคงค้างเป็นจำนวนมาก

บริษัทสตาร์ทอัพด้านเงินคริปโทเคอร์เรนซี ล้วนประกาศแผนตัดลดต้นทุนดำเนินกิจการอย่างรุนแรง ท่ามกลางตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีเผชิญความตกต่ำของสกุลเงินดิจิทัลทั่วตลาด บล็อคไฟ ประกาศปลดพนักงาน 20% จากจำนวนทั้งหมด ก่อนหน้านี้ เมื่อสิ้นปี 2563 มีจำนวนพนักงาน 150 คน ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น มากกว่า 850 คน

คริปโต ดอทคอม ประกาศปลดพนักงาน 260 คน หลังจากเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวได้รับสิทธิการใช้สเตเดี้ยมบาสเกตบอลของทีมชื่อดังในลีกเอ็นบีเอ ลอส แองเจลิส เลคเกอร์ ด้วยมูลค่าสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 24,500 ล้านบาท

เจมินี (Gemini) ประกาศปลดพนักงาน 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ก่อนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายนตามเวลาในสหรัฐอเมริกานั้น มูลค่าตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกสูญหายรุนแรงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 70 ล้านล้านบาท ขณะที่ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมานั้น นักลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซีต้องถูกบังคับขาย เพื่อชำระหนี้สูงถึง 435,500,000 บาท หรือราว 15,243 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินบิทคอยน์ 202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7,070 ล้านบาท และเงินอีเธอเลียม 144.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,058 ล้านบาท