เตือนแล้วนะ! ไอเอ็มเอฟเตือนสงครามเย็นครั้งที่ 2 ส่อฉุดเศรษฐกิจโลกเสียหายสูงถึง 7%

นางสาวกีต้า โกปินาธ รองกรรมการผู้จัดการคนที่ 1 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกที่แบ่งแยกออกเป็นฝักเป็นฝ่าย และเกิดการเปลี่ยนแปลงออกจากความสำคัญการค้าในรูปแบบทวิภาคี จะนำไปสู่ภาวะสงครามเย็นครั้งที่ 2 โดยเฉพาะสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงในระดับภูมิภาคของโลกที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่อง ได้แก่ สงครามยูเครนกับรัสเซีย และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนแผ่นดินใหญ่

หากเศรษฐกิจโลกต้องถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ขั้วใหญ่อย่างชัดเจนในอนาคต จะทำให้ผลผลิตมวลรวมของเศรษฐกิจโลกหดหายตั้งแต่ระหว่าง 2.5% ถึงสูงสุดที่ 7.0% โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเศรษฐกิจแบ่งแยกเป็นขั้วของซีกโลกระหว่างในซีกโลกตะวันตก ซึ่งมีสหรัฐอเมริกากับยุโรป และซีกโลกตะวันออก ซึ่งมีจีนแผ่นดินใหญ่กับรัสเซีย

ขณะที่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนของการถอยร่นจากภาวะโลกาภิวัฒน์ แต่ความผิดปกติของความสัมพันธ์ของชาติยักษ์ใหญ่ได้ปรากฏขึ้นมาให้เห็นกันบ้างแล้ว เนื่องจากการเกิดขึ้นของการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคสำคัญของโลก

หลังจากระยะเวลาหลายปีของความตึงเครียดทางการค้าโลกเพิ่มขึ้น และการตอบโต้ด้วยการเพิ่มมาตรการภาษีเพื่อกีดกันการนำเข้า ประเทศจีนจึงไม่อยู่ในสถานะหุ้นส่วนการค้าขายรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป ในขณะเดียวกัน สัดส่วนการนำเข้าสินค้าของจีนจากประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าตกต่ำลงไปเหลือที่ 13% ในช่วงครึ่งปีแรกนี้จากที่เคยร่วงลงไปอยู่ที่ 22% ในปี 2018

ขณะที่ ในปี 2022 ผ่านมา ได้ปรากฏว่ามีจำนวนมาตรการจำกัดการค้าราว 3,000 รายการ นำมาใช้ทั่วโลก นั่นหมายถึงเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ของจำนวนมาตรการจำกัดการค้าในปี 2019