เทขายอีก! ดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์ปิดลงกว่า 30 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 80 ดอลลาร์

252
0
Share:
เทขายอีก! ดัชนี หุ้น ดาวน์โจนส์ ปิดลงกว่า 30 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 80 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,891 จุด -34 จุด หรือ -0.10% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,111 จุด -25 จุด หรือ -0.61% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,887 จุด -119 จุด หรือ -1.00% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสลับทิศทาง -0.15%, +1.62% และ +3.31% ตามลำดับ โดยดัชนีหุ้นนาสแดคปิดในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 4 จาก 5 สัปดาห์

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ปรับขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป กระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา ประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาประจำเดือนมกราคมสร้างความประหลาดใจและเหนือความคาดหมายอย่างมาก โดยมีตัวเลขจ้างงานพุ่งทะยานสูงถึง 517,000 คน ไม่เพียงสูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 187,000 คน แต่ยังพุ่งสูงกว่า 2 เท่าของตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 2 เท่าจากตัวเลขในเดือนธันวาคม 2022 ที่ 260,000 คน อีกด้วย ที่สำคัญ จำนวนแรงงานเพิ่มขึ้น 517,000 คน ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือนอีกด้วย และยังส่งผลให้ทำสถิติสูงกว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเฉลี่ยรายเดือนในปี 2022 ที่ 410,000 คน

ขณะที่อัตราการว่างงานเดือนมกราคมร่วงลงแตะระดับ 3.4% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 53 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่ปี 1969 เป็นต้นมา สหรัฐอเมริกามีสถิติอัตราว่างงานต่ำสุดถึง 3.1% ในปี 1953 หรือเมื่อ 70 ปีผ่านมา

ด้านอัตราค่าจ้างแรงงานรายชั่วโมงเดือนมกราคม พบว่า เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนธันวาคม 2022 ที่เพิ่ม 0.4% อัตราเฉลี่ยค่าจ้างดังกล่าวเพิ่มขึ้นเร็วกว่าในปี 2022 ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามโดย

จากตัวเลขที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์การจ้างงานดังกล่าวทั้งหมด ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในรอบต่อไปซึ่งจะประชุมในเดือนมีนาคมนี้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พบว่าการจ้างงานภาคเอกชนในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นเพียง 106,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 190,000 คน และยังเป็นการจ้างงานที่ลดต่ำลงมากจากเดือนธันวาคมปี 2022 ที่เพิ่มสูงถึง 235,000 คน

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.72 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.00%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 80.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.3%

ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่าความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เนื่องจากการกลับมาเปิดประเทศของจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้ แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งใหญ่รอบ 84 ปีที่ตุรกีได้สร้างความเสียหายให้กับท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบเมืองเคย์ฮานในตุรกี ส่งผลให้ต้องปิดบริการส่งออกน้ำมันดิบระหว่าง 6-8 กุมภาพันธ์นี้

กลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู เตรียมประชุมครั้งสุดท้ายในวันนี้ เพื่อขอมติอย่างเป็นเอกฉันท์จากประเทศสมาชิกทั้ง 27 ชาติในการประกาศบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันสำเร็จรูปจากรัสเซียด้วยการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดีเซลที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,879.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +1.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ระดับ 1,864.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +4.17 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.2% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 4 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมปี 2022 เป็นต้นมา

ย้อนกลับไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม ในช่วงระหว่างวัน พบว่าราคาทองคำพุ่งทะยานสูงถึง 1,956.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2022 ซึ่งในวันนั้น ทองคำมีราคาที่ระดับ 1,957.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกทะยานแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดในเกือบ 4 สัปดาห์ สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ทะยานสูงขึ้น รับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาประจำเดือนมกราคมสร้างความประหลาดใจและเหนือความคาดหมายอย่างมาก โดยมีตัวเลขจ้างงานพุ่งทะยานสูงถึง 517,000 คน ไม่เพียงสูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 187,000 คน แต่ยังพุ่งสูงกว่า 2 เท่าของตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 2 เท่าจากตัวเลขในเดือนธันวาคม 2022 ที่ 260,000 คน อีกด้วย ที่สำคัญ จำนวนแรงงานเพิ่มขึ้น 517,000 คน ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือนอีกด้วย และยังส่งผลให้ทำสถิติสูงกว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเฉลี่ยรายเดือนในปี 2022 ที่ 410,000 คน

ขณะที่อัตราการว่างงานเดือนมกราคมร่วงลงแตะระดับ 3.4% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 53 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่ปี 1969 เป็นต้นมา สหรัฐอเมริกามีสถิติอัตราว่างงานต่ำสุดถึง 3.1% ในปี 1953 หรือเมื่อ 70 ปีผ่านมา

ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนทองคำประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่อง และอาจปรับขึ้นมากกว่าที่ประเมินกันไว้มนการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมีนาคมนี้ นอกจากนี้ ประธานเฟดยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวในอนาคตอีกราว 2-3 ครั้ง และมองว่าอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายจะอยู่สูงกว่าระดับที่เฟดเคยคาดการณ์ไว้ ถึงแม้จะยอมรับว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาเข้าสู่การปรับลดลงอย่างชัดเจน