เมินมือสอง! คนญี่ปุ่นยังเมินซื้ออีวีมือสอง วงการรถในสหรัฐชี้มือสองรถอีวีดิ่งกว่า 30%

308
0
Share:
เมินมือสอง! คนญี่ปุ่นยังเมินซื้อ มือสองรถอีวี วงการรถในสหรัฐชี้มือสองรถอีวีดิ่งกว่า 30%

ตลาดรถยนต์มือสองในประเทศญี่ปุ่น ที่มีมูลค่า 1.2 ล้านล้านเยน หรือกว่า 300,000 ล้านบาท เปิดเผยว่า ราคารถยนต์พลังงานไฟฟ้าใช้มาก่อนแล้ว หรือราคามือสองรถอีวี มีราคาตกต่ำอย่างรวดเร็วมากกว่าราคามือสองของรถยนต์เครื่องสันดาป หรือรถยนต์ใช้น้ำมัน สาเหตุจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นไม่ให้ความสนใจเนื่องจากขาดมาตรการสนับสนุนด้านราคารถอีวี เทคโนโลยีผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สถานีหรือจุดชาร์จไฟฟ้าของรถอีวีมีจำนวนน้อยในประเทศญี่ปุ่น และสงครามลดราคาขายรถอีวีทั้งคันใหม่และมือสอง เช่น แบรนด์ระดับโลกอย่างเทสลา รวมถึงรถอีวีแบรนด์จีนที่เปิดตัวหลายรุ่นพร้อมใช้กลยุทธ์ลดราคาแข่งขัน

ตลาดรถยนต์ในทวีปยุโรปตอบสนองต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีในทิศทางเดียวกันกับในญี่ปุ่น ธุรกิจยักษ์ใหญ่ในวงการรถเช่าแบรนด์ดังมีชื่อว่า ซิกท์ หรือ Sixt โละรถอีวีแบรนด์เทสลาทั้งหมดออกจากเครือข่ายให้บริการรถเช่า เนื่องจากส่วนใหญ่รถยนต์คันใหม่ที่ขายในตลาดยุโรปจะเป็นลักษณะการเช่าซื้อ หรือ Leases ค่ายผลิตรถยนต์รวมถึงดีลเลอร์รถยนต์ ซึ่งมีต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงในทั้งปีผ่านมา ต้องเผชิญภาวะขาดทุน และพยายามจะฟื้นตัวจากผลขาดทุนด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อสูงมากขึ้นโดยเฉพาะรถอีวีกับผู้บริโภคทั้งบริษัทให้บริการเช่ารถยนต์ และประชาชนทั่วไป

นายคริสเตียน ดาห์ลไฮม์ หัวหน้าฝ่ายบริการการเงินลูกค้า โฟล์คสวาเก้น ผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในยุโรป เปิดเผยว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคารถยนต์ลดลง 1% ทำให้กำไรลดลง 1% ด้วย ประเด็นราคารถอีวีมือสอง กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำลายผลประกอบการในภาพรวมของอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านเหรียญยูโร ปัญหาใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2024 นี้ เนื่องจากรถอีวีจำนวนมากมายถึง 1.2 ล้านคันที่จะหมดสัญญาเช่าซื้อ หรือ Leases ในยุโรป ซึ่งใช้งานมาเป็นเวลา 3 ปีตามสัญญาเช่าซื้อ โดยประสิทธิภาพแบตเตอรี่ไฟฟ้าเสื่อมลงตามอายุใช้งาน จะเข้าสู่ตลาดรถอีวีมือสอง สอดรับกับมุมมองของนายแมทท์ แฮริสัน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ โตโยต้า ยุโรป กล่าวว่า ตลาดไม่มีความต้องการรถอีวีมือสอง นี่คือเหตุผลที่ทำให้กระทบต้นทุนการเงินของเจ้าของรถอีมีมือแรก

ไอซีคาร์สดอทคอม ซึ่งเป็นสื่อชั้นนำในวงการตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ราคาของรถอีวีมือสองตกต่ำอย่างรุนแรงในสหรัฐ โดยมีราคามือสองทรุดลง 1 ใน 3 หรือตกต่ำกว่า -33% ในข่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ในขณะที่ ราคารถยนต์มือสองในภาพรวมกลับมีราคาลดลงเบาบางเพียง -5% ในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นหมายถึงรถอีวีที่ใช้มาแล้ว หรืออีสีมือสองขายออกได้ยาก ใช้เวลานานกว่าจะขายได้เมื่อเทียบกับการขายรถยนต์มือสองที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป ถึงแม้จะมีการลดราคาลงมาอย่างมากก็ตาม

นายเดิร์ค เวดดิเกน แวน แนพพ์ หัวหน้ากลุ่มดีลเลอร์แบรนด์รถโฟล์คสวาเก้น และอาวดี้ กล่าวว่า ปัญหาตลาดรถอีวีมือสองที่ไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค และเป็นภาระของบริษัทเช่าซื้อ ส่วนสำคัญมาจากนับเป็นครั้งแรกของทั่วโลกที่กำลังจะมีตลาดรถอีวีมือสอง ซึ่งตลาดรถยนต์มือสองเครื่องสันดาปมีมาเป็นเวลาเนิ่นนานมาก การตีราคารถมือสองเครื่องยนต์สันดาปดูได้จากสภาพรวมของรถ ตัวถัง ไมล์ระยะทาง และอายุใช้งาน และความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละแบรนด์มือสอง แต่สำหรับรถอีวีมือสองนั้น ยังไม่มีการตรวจสอบ และทดสอบคุณภาพแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ถูกใช่งานมาเป็นเวลานาน เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานการกำหนดราคารถอีวีมือสอง สภาพหรือประสิทธิภาพแบตเตอรี่ไฟฟ้า คิดเป็น 30% ของราคารถอีวี