เศรษฐกิจเวียดนามเบียดมาเลเซียขึ้นใหญ่อันดับ 5 อาเซียน อีก 4 ปีขึ้นอันดับ 4 จี้ติดไทย
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า ได้คาดการณ์มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีประเทศเวียดนามในปี 2566 ที่ผ่านไปนั้น จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 433,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 15.6 ล้านล้านบาท ซึ่งจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ขึ้นเป็นอันดับที่ 5 ในกลุ่มประเทศอาเซียน
เศรษฐกิจเวียดนามที่ได้รับการคาดการณ์ดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีจีดีพีที่ 433,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 15.6 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ ภายในสิ้นปี 2024 นี้ มูลค่าขนาดเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามจะเพิ่มขึ้นไปเป็น 469,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 16.8 ล้านล้านบาท
สำหรับขนาดเศรษฐกิจกลุ่มอาเซียนในสิ้นปี 2024 นี้ ไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.69 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 168.8 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย อันดับ 1 อินโดนีเซีย มีขนาดที่ 1.54 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 2 ไทย อยู่ที่ 543,300 ดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 3 สิงคโปร์อยู่ที่ 520,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 4 ฟิลิปปินส์อยู่ที่ 475,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับ 5 เวียดนาม อยู่ที่ 469,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ภายในอีก 4 ปีจากนี้ไป หรือเมื่อถึงสิ้นปี 2028 พบว่า อันดับ 1 อินโดนีเซียมีขนาดที่ 2.09 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 698,510 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 3 ไทย 682,680 ดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 4 เวียดนาม 657,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 5 สิงคโปร์ 626,070 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 6 มาเลเซีย 603,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 7 เมียนมา 98,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 8 กัมพูชา 45,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 9 บรูไน 18,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 10 สปป.ลาว 17,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับ 11 ติมอร์-เลสเต 2,690 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ CEBR สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า เศรษฐกิจประเทศเวียดนามจะขยายตัวอย่างรวดเร็วภายในอีก 9 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2033 มูลค่าขนาดเศรษฐกิจเวียดนามจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวไปอยู่ที่ 1.05 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลมีขนาดเศรษฐกิจขึ้นไปในอันดับที่ 24 ของโลก และภายในอีก 14 ปี หรือปี 2038 มูลค่าขนาดเศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตขึ้นแตะ 1.56 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลใหญ่อันดับที่ 21 ของโลก ที่สำคัญ มีขนาดเศรษฐกิจแซงประเทศไทย ซึ่งจะมีจีดีพีขยายตัวอยู่ที่ 1.31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะถูกจัดให้เป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045
