เศรษฐกิจโลกดิ่งเหวครั้งใหญ่ในรอบ 100 ปี

1706
0
Share:

องค์การความร่วมมือเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกปี 2563 จะทรุดหนัก -6% หลังจากนั้นจะฟื้นกลับในปี 2564 ที่ 5.2% บนเงื่อนไขที่ว่าโรคระบาดโควิด-19 ควบคุมได้ นอกจากนี้ หากเกิดภาวะการระบาดโควิด-19 รอบสองขึ้นมา อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกจะทรุดหนักจากที่คาดไว้มากถึง -7.6% จากนั้นจะกลับฟื้นตัวในปี 2564 ที่ระดับ 2.8% ในขณะที่อัตราการว่างงานในกลุ่มประเทศ OECD ที่มีทั้งหมด 37 ประเทศ จะพุ่งสูงขึ้นในปีนี้ที่ระดับ 9.2% ซึ่งสูงกว่า 5.4% ในปี 2562 ที่ผ่านไป
.
นางลอว์เรนซ์ บูน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่ง OECD เปิดเผยต่อไปว่า เมื่อสิ้นสุดปี 2564 จะพบว่า การสูญเสียรายได้จะมีมากมายกว่าวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในทุกครั้งที่ผ่านมาในรอบ 100 ปี โดยไม่นับในช่วงภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้รัฐบาลของทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคโควิด-19 ต้องกล้าที่จะใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายที่เกิดจากการสร้างหนี้ เพื่อสนับสนุนแรงงานที่มีรายได้ต่ำ และการลงทุน
.
ตราบใดที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินฝืดเกิดขึ้น อัตราการว่างงานพุ่งสูง การใช้นโยบายการเงินอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และภาวะหนี้สาธารณะสูง ล้วนเป็นมาตรการที่จำเป็น และเป็นที่ยอมรับได้
.
OECD ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ว่า จะตกต่ำหนัก -7.3% ก่อนที่จะฟื้นตัวในปีถัดไปที่ระดับ 4.1% หากเกิดการระบาดโรคโควิด-19 รอบที่สองในสหรัฐ เศรษฐกิจสหรัฐจะทรุดหนักขึ้นเป็น -8.5% จากนั้นจะฟื้นตัวในปีหน้าที่ระดับ 1.9% ด้านภาวะเศรษฐกิจกลุ่มยูโรในปี 2563 นี้ จะตกต่ำหนักถึง -9.1% และฟื้นตัวในปี 2564 ที่ระดับ 6.5% หากเกิดการระบาดโรคโควิด-19 รอบที่สองในกลุ่มยูโร เศรษฐกิจยูโรจะทรุดหนักขึ้นเป็น -11.5% จากนั้นจะฟื้นตัวในปีหน้าที่ระดับ 3.5% ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ในปีนี้ว่า จะทรุดลง -2.6% ก่อนที่จะฟื้นตัวในปีถัดไปที่ระดับ 6.8% หากเกิดการระบาดโรคโควิด-19 รอบที่สองในจีน เศรษฐกิจจีนจะทรุดหนักขึ้นเป็น -3.7% จากนั้นจะฟื้นตัวในปีหน้าที่ระดับ 4.5%
.
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรจะเผชิญกับภาวะย่ำแย่มากที่สุดเมื่อเทียบสมาชิกใน OECD โดยพบว่าจะตกค่ำอย่างรุนแรงมากถึง -11.5% ถัดจากนั้น จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าที่ระดับ 9.0% และหากเกิดภาวะการระบาดโควิด-19 รอบสองขึ้นมาในสหราชอาณาจักร อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร จะทรุดหนักจากที่คาดไว้มากถึง -14% จากนั้นจะกลับฟื้นตัวในปี 2564 ที่ระดับ 5%