เศรษฐาชัดถ้าเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลต้องปัดตกม.112 ยอมรับถูกเกมบีบให้ข้ามขั้ว

264
0
Share:
เศรษฐา ชัดถ้า เพื่อไทย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลต้องปัดตก ม.112 ยอมรับถูกเกมบีบให้ข้ามขั้ว

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ได้อีกว่า วันนี้จะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ส่วนจะมีความชัดเจนในการเสนอชื่อตนเป็นนายกฯ หรือไม่นั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ต้องรอข้อสรุปจากการประชุม

ส่วนกรณีเสียง ส.ว.ในการโหวตวันที่ 19 ก.ค.ชัดเจนว่าไม่เอาพรรคก้าวไกล ดังนั้นการตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยจะยังมีพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้ทีมเจรจาไปเจรจาก่อนซึ่งจะทราบทิศทางขณะนี้เรายังมีเอ็มโอยูของ 8 พรรคร่วม ดังนั้นต้องพุดคุยและให้เกียรติกัน

ขณะที่ถูกจับตาว่าจะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทางพรรคมีแคนดิเดต3 คน ต้องรอให้มีมติจากกรรมการบริหารว่าจะเป็นใคร เมื่อถามว่าเมื่อเปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคร่วมยังเหนียวแน่นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่าวันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ โดยคณะเจรจาอาจจะไปพูดคุยกันหลังจากนี้จะมีแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแง่ของแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมองว่าการเสนอชื่อนายกฯ ครั้งต่อไปต้องคิดให้ดี ต้องมีการเจรจาให้เหมาะสม

ส่วนตัวมองว่าควรจะแพ็กกับพรรคก้าวไกลต่อหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้เกียรติคณะเจรจา เมื่อถามอีกว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คิดว่าจะมีพรรคร่วมเข้ามาเติมเสียงเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าอาจจะล้ำหน้าไปเล็กน้อย ต้องให้เกียรติ 8 พรรค ขอให้ใจเย็น มีอีกหลายวันก่อนจะถึงวันที่ 27 ก.ค. เราต้องให้เกียรติกับพรรคร่วม ซึ่งผลการโหวตเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เป็นผลที่น่าผิดหวัง แต่ก็ต้องยอมรับและเดินต่อไป

เมื่อถามว่าตัวเลขคณิตศาสตร์ ทางที่ง่ายที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลคือการหาเสียง สว.หรือหาเสียงสส.มาเพิ่ม นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องเบื้องต้นมากๆ อย่างไรเสียง สว. 250 เสียงถือเป็นส่วนที่สำคัญ เมื่อถามว่าคิดหรือไม่ว่าตอนนี้เกมบีบให้พรรคเพื่อไทยต้องข้ามขั้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า หากตนต้องตอบคำถามนี้อย่างไรก็ต้องคิดอยู่แล้วเป็นธรรมดา ไม่ได้เป็นโจทย์ที่ซับซ้อนมาก ต่างคนต่างคิดไป แต่สำคัญที่สุดคือคนที่มีอำนาจตัดสินใจ คณะกรรมการบริหาร คณะเจรจาร่วมต้องเป็นคนพิจารณาให้ดี

เมื่อถามว่ามีการพูดถึงสูตรที่จะผลักให้ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน วันนี้มองว่ายังต้องจับมือกับพรรคก้าวไกลไปจนกว่าจะสุดทางไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าสุดคืออะไร สุดทางคือพรรคก้าวไกลไม่สามารถส่งนายกฯได้ ถือว่าสุดทางแล้วหรือยัง อันนี้ต้องฝากไปยังคณะเจรจาของ 8 พรรคว่านี้คือสุดทางหรือยัง

“ถ้าสุดทางแล้วต้องมาพิจารณาว่าพรรคที่มีคะแนนอันดับสอง จะได้รับการมอบหมายหรือไม่ จะตกลงกันได้หรือไม่ อยากให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เพราะถึงอย่างไรเราก็ยังร่วมอุดมการณ์กันอยู่ดี”

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังกล่าวด้วยว่า มองว่าพรรคที่จะเสนอชื่อนายกฯ ครั้งต่อไป ต้องไม่มีเรื่องของการแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว. รวมถึงพรรคการเมืองอื่น คณิตศาสตร์ค่อนข้างพื้นฐานมากๆ นับดูก็รู้ว่าเรื่องอะไรเป็นอะไร โดยส่วนตัวคิดว่าหากมีมาตรา112 อยู่ คงไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ พรรค