เอกชนกังวลชุมนุมใหญ่19 ก.ย.นี้กระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงวันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนักศึกษา ส่วนตัวยังมีความกังวลต่อกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ หากการชุมนุมยืดเยื้ออาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และอาจจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน หรือ เลิกจ้างในอนาคต ซึ่งประเมินว่าจะมีมากถึง 4-5 ล้านคน ซึ่งรวมคนที่ไม่ตกงานแต่ไม่มีงานทำ
.
ส่วนการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย. 2563 ภาคสังคม ธุรกิจ รวมถึงต่างชาติ ให้ความสนใจอย่างมาก เพราะน่าจะเป็นการชุมนุมใหญ่ ส่วนตัวมีความกังวลว่าอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการขยายวงกว้าง และการชุมนุมที่ยืดเยื้อ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเพียงแฟลตม็อบที่จบภายในวันเดียวเท่านั้น
.
หากเกิดการชุมนุมยืดเยื้อ จะเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการทำให้ประชาชนชะลอการจับจ่าย กระทบต่อเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้เดิม ที่จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 และจะถูกเลื่อนไปเป็นไปไตรมาส 2 ปี 2564 แทน รวมถึงจะกระทบต่อการลงทุนในอนาคตด้วย
.
อย่างไรก็ตามส่วนตัวประเมินว่ายังไม่เห็นสัญญาณของการยืดเยื้อ ดังนั้นจะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเพียงระยะสั้น หรือมีผลกระทบต่อระบบเศรฐกิจในระดับน้อยถึงปานกลางเท่านั้น
.
อย่างไรก็ตามรัฐบาลควรเร่งแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนใหม่ แทนนายปรีดี ดาวฉาย ที่ลาออกไป เพื่อขับเคลื่อนมาตรการเศรษฐกิจที่สำคัญ ให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจรวดเร็ว และทำอย่างไรก็ได้ให้คนมีเงินออกมาใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
.
ส่วนที่มีการปรากฏรายชื่อของบุคคลที่มีโอกาสเข้ามาดำรงตำแหน่งรมว.คลัง เช่น นายสมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง, นายชาติชาย พยุหนาวีชัย อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
.
ส่วนตัวไม่ได้ติดขัดแต่อย่างใด จะเป็นใครก็ได้ เพียงแต่ต้องการบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เนื่องจากการทำงานด้านการคลังเป็นเรื่องที่ยาก