เอกชนท่องเที่ยวชี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งพิธายุติหน้าที่สส. ฉุดตั้งรัฐบาลช้า ลามท่องเที่ยว

เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ กล่าวว่า เมื่อการเมืองไม่แน่นอน การตัดสินใจในการลงทุนเกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยว ทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ ต้องชะลอหรือเลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอดูความชัดเจนให้มากที่สุด ทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นทั้งการจ้างงาน และการลงทุน ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยด้วย

สำหรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงหรือไม่ ด้วยการสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่สส.นั้น มองว่าจะส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลที่อาจล่าช้าออกไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกรอบงบประมาณปี 2567 ที่ต้องล่าช้าออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากที่สุด

นายอดิษฐ์ กล่าวว่า ผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว เป็นเรื่องของจิตวิทยาของผู้ประกอบการที่จะลงทุนเพิ่มเติม ทั้งการลงทุนในการขยายธุรกิจ และฟื้นกิจการกลับคืนมา รวมถึงการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร ที่เป็นสถานประกอบการต่างๆ เป็นผลกระทบในแง่ของซัพพลายไซด์ ที่คงจะหยุดดูสถานการณ์เพื่อรอดูความชัดเจนให้เกิดขึ้นก่อน ซึ่งส่วนนี้จะส่งผลกระทบในด้านแรงงานด้วย เพราะเมื่อธุรกิจชะลอลง การจ้างงานก็จะไม่เพิ่มขึ้น

เลขาธิการแอตต้า กล่าวต่อไปว่า ผลกระทบด้านการตลาดจะปรากฎขึ้น เช่น บริษัทนำเที่ยวที่ต้องทำสัญญาผูกมัดกับสายการบิน ก็ยิ่งต้องชะลอไปก่อน เพื่อรอดูว่าการเมืองจะมีผลต่อจิตวิทยาของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากน้อยเท่าใด ทั้งในด้านนโยบาย และงบประมาณกระตุ้นตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นผลที่เกี่ยวเนื่องกันแบบทุกส่วน