เอดีบีเผยเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียหดตัวครั้งแรกในรอบ 58 ปี

567
0
Share:

ยาซุยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี เปิดเผยว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี เอเชียจะหดตัว 0.7% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน มิ.ย.ว่าจะขยายตัว 0.1% นับเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2505
.
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงรุนแรง เนื่องจากการระบาดระลอกแรกที่ยืดเยื้อหรือการระบาดในระลอกที่ 2 อาจทำให้ต้องกลับมาใช้มาตรการควบคุมการแพร่เชื้ออีกครั้ง
.
นอกจากนี้การหดตัวของเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียเกิดขึ้นเป็นวงกว้างกว่าวิกฤตครั้งก่อนหน้า โดยครั้งนี้เศรษฐกิจ 3 ไตรมาสของปีนี้มีแนวโน้มหดตัว
.
ขณะที่จีนสวนกระแสภูมิภาค คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะโต 1.8% ในปีนี้ เนื่องจากความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งตรงกับที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ส่วนในปี 2564 คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 7.7% จากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 7.4%
.
ส่วนอินเดียซึ่งมีมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลกระทบกับการใช้จ่ายอย่างรุนแรง ทางเอดีบี ประมาณการว่า จีดีพีจะหดตัวถึง 9% ฟิลิปปินส์หดตัว 7.3% และไทยหดตัว 8%
.
ทั้งนี้การหดตัวนี้พิจารณารวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ร้ายแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ตอนแรก และตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในปีนี้
.
อย่างไรก็ตามเงินกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนใหญ่สามารถบรรเทาผลกระทบและเป็นฐานสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ โดยการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเอเชียที่กำลังพัฒนา ซึ่งไม่นับรวมประเทศที่พัฒนาไปไกลแล้วอย่างญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะฟื้นตัวกลับมาเติบโตที่ 6.8% ในปี 2564 แต่ถึงอย่างนั้นการขยายตัวของเศรษฐกิจก็ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด ซึ่งบ่งบอกว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่