เอามาอีกแล้ว! ศบค.เผยให้ อภ. เตรียมสั่งซื้อซิโนแวคเพิ่มอีก 12 ล้านโดส พร้อมอนุมัติแลกวัคซีนแอสตร้าฯ กับภูฏาน

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. ได้กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงว่า สำหรับการจัดสรรวัคซีนของประเทศไทย ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ได้มติดังนี้

1. เห็นชอบในหลักการจัดหาวัคซีนในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 เพื่อนำมาใช้ในช่วงที่ระยะเวลาที่วัคซีนมีจำกัดเพิ่มเติม เนื่องจากปัญหาสายพันธุ์เดลต้า ที่วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้น้อย จึงควรเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มความครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งต้องได้วัคซีน 100 ล้านโดส ในปี พ.ศ.2564 โดยการเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มจากบริษัทผู้ผลิตที่สามารถส่งมอบวัคซีนได้โดยเร็วที่สุด ได้แก่
.
1.1 จองซื้อวัคซีนจากบริษัท Pfizer เพิ่มเติมอีกจำนวน 10 ล้านโดส
1.2 ให้ GPO จัดหาวัคซีน Sinovac เพิ่มเติมอีกจำนวน 12 ล้านโดส
1.3 ให้เจรจาจัดหาวัคซีนอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกจำนวน 10 ล้านโดส ภายในปี 2564
2. มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ดำเนินการข้อ 1.1 และ 1.3
ซึ่งทางองค์การเภสัชกรรมจะดำเนินการข้อ 1.2 และ กรมควบคุมโรคดำเนินการข้อ 1.1-1.3
.
ซึ่งไทยจะได้รับความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากต่างประเทศ โดยที่ประชุมได้เห็นชอบการแลกวัคซีนแอสตร้าเซเนกา ระหว่างรัฐบาลภูฏานกับรัฐบาลไทยจำนวน 130,000 – 150,000 โดส (โดยมีจำนวน 19,070 โดส ที่หมดอายุในเดือนสิงหาคม 2564) และส่งคืนในภายหลัง
.
โดยยังเห็นชอบการรับมอบ Monoclonal antibody (Casirivimab/Imdevimab) จากกระทรวงสาธารณสุข ประเทศเยอรมนี ของบริษัท Regeneron จำนวน 1,000 – 2,000 ชุด
.
ทั้งนี้ได้ยังเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้กองทัพอากาศสนับสนุนการขนส่งวัคซีนทั้งรับ และส่งคืนประเทศภูฏาน และให้อนุมัติ การยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าทั้งวัคซีนและยาฯ