แจงยิบ! การรถไฟฯ ชี้แจงระงับเปลี่ยนป้ายสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ชั่วคราว

202
0
Share:
แจงยิบ! การรถไฟ ชี้แจง ระงับเปลี่ยนป้ายสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ชั่วคราว

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ร.ฟ.ท. ได้ส่งหนังสือถึง บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในการขอระงับงานรื้อย้าย จัดหา และติดตั้งงานก่อสร้างปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางชื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟฯ นั้น เพื่อขอให้เลื่อนงานออกไปก่อน และเพื่อรอผลสอบจากคมนาคมให้ชัดเจน โดยเป็นเพียงการระงับชั่วคราวไม่ได้ยกเลิกสัญญา ซึ่งจะทำให้การดำเนินการครั้งนี้ โปร่งใสและสุจริต เพราะหากกระบวนการสอบข้อเท็จจริงมีข้อเสนอแนะ ก็จะได้นำมาดำเนินการเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ดี ร.ฟ.ท.ยืนยันว่า การจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้โปร่งใส ถูกต้อง มีราคาที่เหมาะสม และไม่แพง

ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีเปลี่ยนป้ายสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์นัดแรก ที่กระทรวงคมนาคม ในวันนี้ (10 ม.ค.) โดยระบุว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ตัวแทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ตัวแทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขาสภาวิศวกร กรมบัญชีกลาง และฝ่ายกฎหมาย โดยประเด็นสำคัญที่มีการประชุมในครั้งนี้ เป็นไปตามที่คณะกรรมการฯ ได้รับนโยบายจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม และกรรมการสอบข้อเท็จจริง

โดยที่ประชุมได้ขอให้ ร.ฟ.ท.ชี้แจงข้อสงสัยใน 9 ประเด็น ประกอบด้วย
1. ความเป็นมาของโครงการ
2.ขอบเขตงานเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์)
3.รายละเอียดราคากลาง
4.รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดราคากลาง (ทุกครั้ง)
5.การขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้าง บันทึกสั่งจ้าง และรายละเอียดการสั่งจ้าง
6.สำเนาข้อเสนอราคาของบริษัทผู้รับจ้าง
7.สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการจ้าง (ทุกครั้ง)
8.สัญญาจ้าง
9.เปรียบเทียบราคาการติดตั้งป้าย กับราคาตลาดโดยทั่วไป

“การประชุมในครั้งนี้หลักๆ ได้มีการพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ 1.ให้ดำเนินการระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ว่าการตรวจสอบป้ายราคาเป็นอย่างไร และ 2.ความเหมาะสมทางด้านราคา แนวคิด และทางเลือกในการดำเนินการ เพื่อดูว่าจะสามารถประหยัดได้กว่าเดิมหรือไม่ โดยจะให้มีการเปรียบเทียบกับราคาป้ายที่มีการประมูลและติดตั้งไปเมื่อปี 2553 ว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ต่อไป โดยคณะกรรมการฯ จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงอย่างละเอียดอีกครั้ง เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปตามกรอบกระทรวงฯ กำหนด 15 วัน หรือภายใน 19 ม.ค.นี้”