แดงยกแผง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งเหวกว่า 300 จุด น้ำมันดิบโลกปิดเกือบหลุด 80 ดอลลาร์

191
0
Share:
แดงยกแผง! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดดิ่งเหวกว่า 300 จุด น้ำมันดิบโลกปิดเกือบหลุด 80 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,946 จุด -301 จุด หรือ -1.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,437 จุด -51 จุด หรือ -1.16% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,631 จุด -157 จุด หรือ -1.14%

สาเหตุจากนักลงทุนถล่มขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินอื่นๆอย่างหนาตา หลังจากฟิทช์ เรตติ้ง บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือการลงทุน เปิดเผยว่าอาจต้องปรับลดอันดับการลงทุนของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ผ่านไป มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือการลงทุนชื่อดังระดับโลก ได้ปรับลดเรตติ้งของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาทั้ง 10 แห่งไปแล้ว

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 80.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.8% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลง 2 วันติดกันถึง -2.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.62%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.5% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลง 2 วันติดกันถึง -1.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.19%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ลดดอกเบี้ยสำคัญอย่างเหนือความคาดหมาย สะท้อนภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ฟื้นตัว และซบเซา ซึ่งผิดความคาดหมายจากการกลับมาเปิดประเทศเมื่อธันวาคมปี 2022 เป็นต้นมา กระทบต่อปริมาณการบริโภคน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตในเดือนกรกฎาคมของสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้

ตลาดคาดการณ์ยังคงคาดการณ์ว่าภาวะสต๊อกน้ำมันดิบโลกยังตึงตัวต่อเนื่องท่ามกลางรัสเซียลดการส่งออกน้ำมันดิบ สอดคล้องกับสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังนี้ ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะตึงตัว สาเหตุจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของจีนแผ่นดินใหญ่

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,907.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +0.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.00% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,940.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -3.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.2%

เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี กลับเพิ่มสูงขึ้น ทำสถิติรายสัปดาห์ขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน หลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาเดือนกรกฎาคมในกลางสัปดาห์ผ่านไป พบว่าแรงกดดันต่อการตัดสินใจทิศทางดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐอเมริกาผ่อนคลายลง

นักลงทุนให้น้ำหนักสัญญาณและแรงกดดันต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมเดือนกันยายน โดยเฉพาะการคาดการณ์ว่ารอบการสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะเกิดขึ้นหรือไม่ และเร็วที่สุดเมื่อไร

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 86.5%