แบงก์กสิกรไทยผนึกเอเชียพลัสทุบโต๊ะเรียกคืนเงิน STARK เบี้ยวหุ้นกู้เฉียด 7,000 ล้าน

นางทิพย์สุดา อภิวัฒน์การุณ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ทำหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้นกู้เรื่องเห็นควรให้ยกเลิกการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ STARK ในวันที่ 23 มิ.ย. 2566 ที่จะถึงนี้ เนื่องจากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ใช้สิทธิเรียกให้หนี้ตามหุ้นกู้ถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call Default) แล้วในวันที่ 20 มิ.ย. 2566

โดยผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้มีหนังสือถึง STARK โดยอาศัยอำนาจของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ตามข้อกำหนดสิทธิ เพื่อเรียกให้ STARK ชำระหนี้เงินต้นคงค้างทั้งหมดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,023.10 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดภายใต้หุ้นกู้ซึ่งคำนวณจนถึงวันที่ผู้ออกหุ้นกู้ชำระหนี้ตามหุ้นกู้ครบถ้วนโดยพลันให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ก.ค. 2566

ทั้งนี้อาศัยเหตุผิดนัดของ STARK ตามข้อกำหนดสิทธิ เนื่องจากได้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ STARK239A และ STARK249A ซึ่งครบกำหนดชำระแล้วเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2566 จำนวน 18.13 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินรวมกันเกินกว่า 3% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของ STARK โดยคำนวณจากงบการเงินประจำปี 2565 ที่ STARK ได้นำส่งให้แก่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2566 ซึ่งมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบเป็นจำนวนประมาณ 4,403 ล้านบาท โดยหากมีความคืบหน้า ผู้แทนผู้ถือคู่จะดำเนินการแจ้งให้ท่านผู้ถือหุ้นกู้ทราบต่อไป

ด้านนายชัยณรงค์ ชูชื่น บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ในฐานะผู้รับมอบอำนาจผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2566 ได้มีหนังสือถึง STARK โดยอาศัยอำนาจของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ตามข้อกำหนดสิทธิ เรียกให้หนี้ตามหุ้นกู้ STARK ถึงกำหนดชำระโดยพลันแล้วจึงไม่มีเหตุที่จะต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ต่อไปอีก

โดยผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้เรียกให้ STARK ชำระหนี้เงินต้นคงค้างทั้งหมดของหุ้นกู้ STARK242A เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,934 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดภายใต้หุ้นกู้ซึ่งคำนวณจนถึงวันที่ผู้ออกหุ้นกู้ชำระหนี้ตามหุ้นกู้ครบถ้วนโดยพลันให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ก.ค. 2566

ทั้งนี้อาศัยเหตุผิดนัดของ STARK ตามข้อกำหนดสิทธิ เนื่องจากได้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ STARK239A และ STARK249A ซึ่งครบกำหนดชำระแล้วเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2566 จำนวน 18.14 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินรวมกันเกินกว่า 3% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของ STARK โดยคำนวณจากงบการเงินประจำปี 2565 ที่ STARK ได้นำส่งให้แก่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2566 ซึ่งมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบเป็นจำนวนประมาณ 4,403 ล้านบาท

อนึ่ง หาก STARK ไม่ชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมดภายในวันที่ 20 ก.ค. 2566 ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะได้สิทธิทางศาลต่อไป เพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้ทุกท่าน

ทั้งนี้ มูลค่าของหุ้นกู้ 3 รุ่นของบริษัท STARK คือ STARK242A, STARK245A และ STARK255A จะคิดเป็นเงินที่ STARK จะต้องจ่ายคืนรวม 6,957 ล้านบาท