ส่อเคาะลดค่าไฟงวด 4 เดือนสุดท้ายแค่กว่า 20 สตางค์ เอกชนงงมากลดได้แท้จริงถึง 45 สตางค์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) จะเปิดแถลงข่าว และการคำนวณค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) และข้อเสนอทางเลือกเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นประกอบการพิจารณาเพื่อประกาศเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนกันยายน – ธันวาคม 2566 ในวันนี้

โดยเป็นการเปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชน และผู้ประกอบการ ระหว่างวันที่ 7–21 ก.ค.นี้ ประกอบด้วย 3 ทางเลือก คือ
1. ลดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า 20 สตางค์ต่อหน่วย
2. ลดค่าไฟฟ้าได้ไม่เกิน 20 สตางค์ต่อหน่วย
และ 3. ตรึงค่าไฟฟ้าให้อยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วยเท่ากับงวดปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ราคาจะลดลงกว่า 20 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น สาเหตุจากแหล่งก๊าซเอราวัณผลิตได้เพิ่มขึ้น การใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) จึงลดลง ในขณะที่ราคาแอลเอ็นจีตลาดโลกก็ปรับลดลง

พร้อมๆ กับการใช้หนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่รับภาระต้นทุนค่าไฟให้ประชาชนไปก่อนราว 1.5 แสนล้านล้านบาท และมีการใช้หนี้ 2 งวดเอฟที (ม.ค. – ส.ค. 66) ไปแล้วรวม 3 หมื่นล้านบาท เหลือหนี้ 1.2 แสนล้านบาท ที่จะต้องชำระภายใน 5 งวดเอฟที (ก.ย. 66 – เม.ย. 68) ดังนั้น งวดเดือน ก.ย. – ธ.ค. 66 ก็จะชำระราว 2.4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม กกพ.อาจมีการเสนอ 3 ทางเลือกเพื่อให้ประชาชนเลือกโดยมีทั้งลดค่าไฟฟ้าหรือตรึงค่าไฟต่อไป

ด้านนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หากพิจารณาจากปัจจัยที่นำมาคำนวณค่า Ft แล้ว พบว่า มีปัจจัยบวกให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้กว่า 10% จากงวดที่ 2 (พ.ค. – ส.ค. 66) และคาดว่าไม่ควรเกิน 4.25 บาท/หน่วย จากเดิม 4.70 บาท/หน่วย เนื่องจาก

1) ปริมาณก๊าซจากอ่าวไทยโดยเฉพาะจากแหล่งเอราวัณทยอยเพิ่มจาก 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 400 ล้านลบ.ฟุต/วัน ในเดือน ก.ค. และเพิ่มเป็น 600 ล้านลบ.ฟุตต่อวันในเดือนธันวาคมนี้
2) ปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG ลดลง
3) ราคา LNG Spot ลดลงมากกว่า 30%
4) ราคาพลังงานโลก มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
5) ภาระหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งงวดที่ 1 และงวดที่ 2 ลดลงเร็วกว่าแผนด้วยต้นทุนจริง LNG ต่ำกว่าที่เรียกเก็บ Ft แม้ว่าค่าเงินบาทจะยังอ่อนค่าในระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ