แบงก์ชาติคาดธนาคารพาณิชย์เบิกจ่ายธนบัตรช่วงเทศกาลตรุษจีน 2.5 หมื่นล้าน ลดลง 7%

230
0
Share:
แบงก์ชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดธนาคารพาณิชย์เบิกจ่าย ธนบัตร ช่วงเทศกาล ตรุษจีน 2.5 หมื่นล้าน ลดลง 7%

นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2566 ที่ประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรในระดับสูงกว่าปกติ นั้น ธปท.ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ พิจารณาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน ภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มการชำระเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ
และประเมินว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท.เพิ่มขึ้น เป็นมูลค่าประมาณ 25,000 ล้านบาท ลดลงประมาณ 7% จากปีก่อน

ด้านธนาคารไทยพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมในการสำรองธนบัตรเพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า จำนวน 38,600 ล้านบาท โดยเป็นการสำรองที่ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 15,914 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 22,686 ล้านบาท แบ่งเป็นตู้เอทีเอ็ม 30,700 ล้านบาท และสาขา 7,900 ล้านบาท ปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 766 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มรวม 11,108 เครื่อง (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565)

ส่วนธนาคารกสิกรไทยเตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม เพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน 19 – 22 มกราคม 2566 รวมทั้งสิ้น 37,400 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา จำนวน 16,000 ล้านบาท เป็นเงินสำรองสำหรับสาขาในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 9,000 ล้านบาท และสาขาในเขตภูมิภาคจำนวน 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมี 824 สาขา ทั่วประเทศ ขณะการสำรองเงินสดเพื่อเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) ที่มีอยู่จำนวนกว่า 9,000 เครื่องทั่วประเทศ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 21,400 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 9,400 ล้านบาท และเอทีเอ็มในเขตภูมิภาคจำนวน 12,000 ล้านบาท

สำหรับธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เตรียมพร้อมรองรับการใช้บริการของลูกค้าและประชาชน ทั้งการใช้บริการที่สาขาและตู้ ATM ระหว่างวันที่ 19-24 มกราคม 2566 โยสำรองเงินสด จำนวน 30,443 ล้านบาท แยกเป็นพื้นที่ กทม.จำนวน 6,050 ล้านบาท และภูมิภาคจำนวน 24,393 ล้านบาท เป็นการสำรองสำหรับสาขา จำนวน 6,720 ล้านบาท และตู้ ATM จำนวน 23,723 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารขอเชิญชวนลูกค้าและประชาชนทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ลดการสัมผัสเงินสด และลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19