โจ ไบเดน ชี้ยอดตายโควิด-19 ในสหรัฐแตะ 500,000 ในเดือนหน้า

ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน เปิดเผยว่า ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จำนวนชาวอเมริกันที่เสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา อาจมีจำนวนมากถึง 500,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100,000 รายจากปัจจุบัน ขณะที่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐลงนามในคำสั่งบริหารเป็นจำนวน 10 ฉบับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา
.
สำหรับคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐที่ลงนามโดยนายโจ ไบเดน จะนำไปสู่มาตรการสำคัญหลายอย่าง เช่น การเริ่มรณรงค์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เชิงรุกอย่างเข้มข้น ผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบิน รถบัส และรถไฟต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งในการเดินทางระหว่างรัฐ นักเดินทางหรือนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศต้องยื่นเอกสารรับรองผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นลบทุกครั้งก่อนออกเดินทางจากจุดเริ่มต้น และเมื่อถึงจุดหมายปลายทางต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว
.
ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า การสวมใส่หน้ากากอนามัยอาจช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของชาวอเมริกันถึง 50,000 รายนับตั้งแต่วันนี้ถึงเดือนเมษายน
.
คำสั่งบริหารดังกล่าว กำหนดให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ด้านสาธารณสุขในโรงเรียนเพื่อความปลอดภัยในการกลับมาเปิดการเรียนการสอน และการเพิ่มการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประชาชนชาวอเมริกันมากขึ้น ด้วยการจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ห่างไกล
.
ด้านการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางนั้น นายโจ ไบเดน ลงนามในคำสั่งให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิแห่งสหรัฐเข้าไปช่วยเหลือ เยียวยา และสนับสนุนด้านอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและป้องกันโรคระบาดในแต่ละรัฐ รวมถึงมีคำสั่งไปยังสำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง (Federal Emergency Management Agency) หรือ FEMA ในสังกัดกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ประจำแต่ละรัฐ เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่นเกี่ยวกับการจัดการภาวะการระบาดโรคโควิด-19
.
ดร.แอนโทนี่ ฟาวซี่ หัวหน้าที่ปรึกษาภาวะโรคระบาดโควิด-19 เปิดเผยว่า หากรัฐบาลชุดใหม่สามารถทำให้เกิดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ได้ระหว่าง 70-85% ของทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นสุดฤดูร้อนนี้ ชาวอเมริกันจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้