โรงเรียเอกชนต้องขึ้นค่าเทอมปี 67 รับผลพวงขึ้นเงินเดือนข้าราชการพ่วงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

414
0
Share:
โรงเรียเอกชน ต้องขึ้น ค่าเทอม ปี 67 รับผลพวงขึ้นเงินเดือนข้าราชการพ่วงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ ส.ปส.กช. กล่าวว่า บรรดาผู้บริหารโรงเรียนเอกชนแสดงความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโรงเรียน เนื่องจากประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ รัฐบาลจะมีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ หากมีมติปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการซึ่งอาจปรับขึ้นประมาณ 7% จะส่งผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชนเต็ม 100% ปัจจัยดังกล่าวทำให้ ส.ปส.กช.ต้องประเมินแนวโน้มการปรับเงินเดือนให้ครูเอกชนเป็นเท่าไหร่ สาเหตุจากเรื่องนี้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่เคยอนุมัติหลักการให้กระทรวงศึกษาธิการสามารถปรับเพิ่มเงินเดือนครูโรงเรียนเอกชนในอัตราเดียวกันทุกครั้งที่มีการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ ดังนั้นการเตรียมข้อมูลการปรับขึ้นเงินเดือนครูเอกชนจะต้องนำส่งคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนเพื่อพิจารณาเสนอให้ครม.อนุมัติต่อไป

ในประเด็นต่อมา คือ รัฐบาลมีนโยบายในการผลักดันการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายวันจากอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศปัจจุบันที่ 337 บาทต่อวัน มาเป็นวันละ 400 บาท หรืออาจไม่ถึงวันละ 400 บาทก็ตาม โดยเตรียมเสนอและประกาศอัตราค่าแรงขั้นต่ำใหม่ในเดือนธันวาคมนี้ และอาจมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2567 ประเด็นนี้จะส่งต่อค่าใช้จ่ายในการจ้างบุลคากร และคนงานในโรงเรียนเอกชนด้วย ปัจจุบันบางโรงเรียนหลายแห่งมีสัดส่วนการจ้างครู และบุคลากร ในอัตรทครึ่งต่อครึ่ง และบางโรงเรียนอาจมีบุคลากรมากกว่าครู สาเหตุจากโรงเรียนบางแห่งต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กประจำต่อ 1 ห้องเรียน ซึ่งจะต้องมี 1-2 คน คนขับรถ ภารโรง แม่ครัว เป็นต้น

ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมฯ กล่าวต่อไปว่า ทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวทำให้โรงเรียนเอกชนอาจต้องปรับเพิ่มค่าเทอม การปรับขึ้นค่าเทอมย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ปกครองโดยตรง ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะโรงเรียนมีการปรับขึ้นค่าใช้จ่ายต่างๆ โรงเรียนเอกชนไม่กังวลประเด็นการปรับขึ้นเงินเดือนครู เนื่องจากรัฐอุดหนุนช่วยเหลืออยู่ แต่กังวลการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ถ้าขึ้นเต็มวันละ 400 บาทจริง จะต้องขอให้รัฐช่วยอุดหนุนในส่วนนี้ด้วย