ไทยติดอันดับ 9 ของโลก ชาติที่มีเศรษฐีทำธุรกิจได้ประโยชน์จากความใกล้ชิดรัฐบาล

ดิ อีโคโนมิสต์ สื่อเศรษฐกิจชั้นนำระดับโลกจากสหราชอาณาจักร เปิดเผย รายงานการจัดอันดับประเทศที่กลุ่มทุนธุรกิจในประเทศได้ประโยชน์จากความใกล้ชิดรัฐบาล โดยสะท้อนผ่านค่าดัชนีทุนนิยมพวกพ้องปี 2564 หรือ The Crony-capitalism Index 2021 พบว่า ใน 10 อันดับแรกของโลกจากทั้ง 22 ประเทศ ได้แก่ อันดับ 1 รัสเซีย อันดับ 2 มาเลเซีย อันดับ 3 สิงคโปร์ อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ อันดับ 5 ยูเครน อันดับ 6 เม็กซิโก อันดับ 7 อินเดีย อันดับ 8 อินโดนีเซีย อันดับ 9 ไทย และอันดับ 10 จีนแผ่นดินใหญ่

ดิ อีโคโนมิสต์ เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับประเทศไทยมีการขยับอันดับดังกล่าวชึ้นมาถึง 4 อันดับ จากเดิมในการจัดอันดับเมื่อปี 2016 หรือในปี 2559 ไทยอยู่อันดับที่ 12 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 9 ในการจัดอันดับครั้งล่าสุดประจำปี 2021 หรือในปี 2564 นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ส่วนใหญ่ของประเทศในแถบอาเซียนล้วนติดใน 10 อันดับแรก โดยมีมาเลเซียเป็นอันดับ 1 ตามด้วย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย

ดิ อีโคโนมิสต์ วิเคราะห์ว่า ค่าดัชนีทุนนิยมพวกพ้องปี 2564 หรือ The Crony-capitalism Index 2021 สะท้อนให้เห็นถึงการแพร่กระจายของผู้ประกอบการธุรกิจที่มีการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล หรือบุคคล หรือคณะบุคคลในรัฐบาลของแต่ละประเทศ ด้วยมุ่งหวังที่จะสร้างผลกำไรสูงสุดให้กับเครือข่ายธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากความใกล้ชิด หรือความสนิทสนมกับรัฐบาล ซึ่งถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมที่กำลังกัดกร่อนระบบเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศตนเอง

สำหรับหลักเกณฑ์ในการจัดการรายงานอันดับประเทศที่กลุ่มทุนธุรกิจในประเทศได้ประโยชน์จากความใกล้ชิดรัฐบาล จะใช้หลักสำคัญของ มูลค่าความมั่งคั่ง (ความร่ำรวยของทรัพย์สิน) ของมหาเศรษฐีจำนวน 2,755 คน จากนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอาศัยความสัมพันธ์แบบพวกพ้อง และกลุ่มไม่อาศัยความสัมพันธ์แบบพวกพ้อง โดยเฉพาะกลุ่มอาศัยความสัมพันธ์แบบพวกพ้อง ได้แสดงถึงการได้รับผลตอบแทนในรูปแบบค่าเช่าทางเศรษฐกิจจากความใกล้ชิดกับรัฐบาลในประเทศนั้นๆ พบในธุรกิจธนาคาร กาสิโน การป้องกันประเทศ และการใช้ทรัพยากรสาธารณะเพื่อสร้างผลประโยชน์