ไปอีกราย! ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้าในอิตาลี กลับเสียชีวิต

รัฐบาลแห่งแคว้นปีเยมอนเต้ ประเทศอิตาลี เปิดเผยว่า ได้ประกาศยกเลิกการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้าเป็นการชั่วคราว หลังพบว่าครูผู้ชายที่อาศัยอยู่ในเมือง Biella เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาภายใน 24 ชั่วโมงหลังได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า

.

รัฐบาลแคว้นดังกล่าว เปิดเผยว่า เป็นการตัดสินใจเพื่อป้องกันเหตุล่วงหน้า และกำลังรอผลการตรวจสอบการจัดส่งของวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้าล็อตดังกล่าว เพื่อสรุปสาเหตุที่ชัดเจนว่ามีหลักฐานการเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า และการเสียชีวิตของครูคนดังกล่าวหรือไม่ นอกจากนี้ ไอฟา หรือ Aifa ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการสาธารณสุข อิตาลี เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งห้ามใช้วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้าล็อตหนึ่ง หลังจากพบว่า มีผู้ชายชาวอิตาเลียนที่ได้รับวัคซีนยี่ห้อดังกล่าวแล้ว เกิดเสียชีวิตจำนวน 2 รายที่เมืองซิซิลี

.

ด้านประเทศไอร์แลนด์ ประกาศระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้าเป็นการชั่วคราวเช่นเดียวกัน สาเหตุจากองค์กรกำกับเวชภัณฑ์แห่งนอร์วิเจียน หรือ NMA เปิดเผยรายงานว่า พบภาวะลิ่มเลือดแข็งตัวในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว ก่อนหน้านี้ มีประเทศในยุโรปถึง 9 ชาติ สั่งระงับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าเป็นการชั่วคราว หรือไม่น้อยกว่า 14 วัน หลังพบว่ามีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว เกิดภาวะลิ่มเลือดในเส้นเลือดดำ ทำให้เสียชีวิตหลังผ่านไป 10 วัน

.

อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องหยุดฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หลังจากที่หลายประเทศทั่วโลกชะลอการฉีด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน สอดรับกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า วัคซีนนี้ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดสูงขึ้น