KKP คาดยอดขายอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ติดลบ 37.6%จากการแพร่ระบาดของโควิด 19

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยรายงาน ผลกระทบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากวิกฤตโควิด-19 พบว่า ภาพรวมยอดขายอสังหาริมทรัพย์ 2563 แนวโน้มในปีนี้มีภาวะเศรษฐกิจที่ซึมยาวจากปี 2562 ต่อเนื่อง จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้การขายหยุดชะงักในไตรมาส 1 ส่งผลต่อยอดขายมีโอกาสชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งได้ประมาณการยอดขายที่อยู่อาศัยในปีนี้ คาดว่าจะมีเพียง 62,297 ยูนิต ลดลง 37,565 ยูนิต หรือ -37.6% เมื่อเทียบปี 2562 ซึ่งเป็นยอดขายได้ที่ต่ำที่สุดนับจากวิกฤติทางเศรษฐกิจในปี 2540 สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่นั้น คาดการณ์ว่า จำนวนยูนิตเปิดใหม่ในปี 2563 จะมีเพียง 56,662 ยูนิต ลดลง 54,592 ยูนิต หรือ -49.1% เมื่อเทียบจากปี 2562
.
ด้านตลาดอาคารชุด เช่น คอนโดมิเนียมมีโอกาสชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจำนวนยูนิตที่ขายได้เท่ากับ 31,403 ยูนิต ลดลง 22,900 หน่วย หรือ -42.2% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ซึ่งทำสถิติยอดขายที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีของคอนโดมิเนียม ทั้งหมดเป็นผลจากการชะลอการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดระดับราคาสูง โครงการขนาดใหญที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาเกิน 5 ปี และกลุ่มคอนโดมิเนียมที่เน้นขายนักลงทุนและกลุ่มที่ขายลูกค้าต่างชาติ
.
สำหรับตลาดทาวน์เฮ้าส์ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ไม่เกินแนววงแหวนรอบนอก ซึ่งอยู่ในบริเวณการเข้าถึงรถไฟฟ้าใหม่ส่วนต่อขยายได้ ยังมีความต้องการของผู้ซื้อสูง ประกอบกับเป็นสินค้าทดแทนการซื้อบ้านเดี่ยวและคอนโดที่มีการขยับราคาสูงขึ้นมาก โดยผลกระทบจากโรคโควิด-19 ทำให้คาดว่าจะมียอดขาย 20,026 ยูนิต ลดลง 8,673 ยูนิต หรือ -30.2% เมื่อเทียบจากปี 2562 ในขณะที่จำนวนยูนิตสะสมน่าจะลดลงมาที่ 65,649 ยูนิต ลดลง 7.4% แต่ในภาพรวมแล้วตลาดนี้น่าจะได้รับผลกระทบในแค่ระยะสั้นเท่านั้น เพราะทาวน์เฮ้าส์เป็นตลาดของลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริงหรือลูกค้าเรียลดีมานด์