เข้าใจความหลากหลายทางเพศ รู้เท่าทันเชื้อเอชไอวีมีเซ็กส์อย่างปลอดภัย
มิถุนยายน เดือนแห่งความเสมอภาค หรือ Pride Month กลายเป็นกระแสไปทั่วโลก สำหรับ LGBTQ ทั้งการจัดงานฉลองการเปลี่ยนโปรไฟล์ในโซเชียลมีเดียให้กลายเป็นสีรุ้งเพื่อสื่อสารถึงความเสมอภาคทางเพศให้เป็นที่ยอมรับทั้งทางสังคมและสิทธิทางกฎหมายโดยหลายประเทศเปิดกว้างทางกฎหมายให้กลุ่มรักร่วมเพศสามารถแต่งงานกันได้ซึ่งสำหรับในไทยก็ยังมีการเรียกร้องและขับเคลื่อนกฎหมายสมรถเท่าเทียมกันอยู่
ที่มา : www.pixabay.com
เมื่อความรักไม่มีพรมแดนจะเป็นใครเพศอะไรก็สามารถรักกันได้สำหรับ LGBTQ โดย 5 อักษรย่อจึงแสดงถึงอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลายเริ่มจากอักษรตัวแรก L หรือ Lesbian กลุ่มผู้หญิงรักผู้หญิง ตัวอักษรที่สองคือ G หรือ Gay กลุ่มชายรักชาย ตัวอักษรที่สาม B หรือ Bisexual ตัวต่อมาคือ T หรือ Transgender คือกลุ่มคนข้ามเพศ จากเพศหญิงเป็นเพศชาย จากเพศชายเป็นเพศหญิง และตัวอักษรสุดท้ายคือ Q หรือ Queer กลุ่มคนที่พึงพอใจต่อเพศใดเพศหนึ่ง โดยไม่จำกัดเรื่องเพศและความรัก
ที่มา : www.pixabay.com
ท่ามกลางความรักที่เกิดขึ้นในความหลากหลายทางเพศเปิดกว้างมากจากเดิมทำให้ผู้คนในสังคมได้เรียนรู้ เข้าใจ และยอมรับ อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเรียนรู้แสดงความรักผ่านการมีเซ็กส์ในรูปแบบต่างๆอย่างปลอดภัยห่างไกลจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศหากไม่ป้องกันอย่างถูกต้องจากความสุขชั่วคืนอาจกลายเป็นความทุกข์ชั่วชีวิตสำหรับโอกาสการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ยังไม่สามารถรักษาหายได้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณสารคัดหลั่งที่สัมผัสจากการศึกษาการร่วมเพศทางช่องคลอดนั้นเพศหญิงที่เป็นฝ่ายรับจะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีเพียง 4 ใน 10,000 ครั้ง ขณะที่ฝ่ายชายที่เป็นฝ่ายรุกจะมีโอกาส 8 ใน 10,000 ครั้ง
ที่มา : www.pixabay.com
ซึ่งถ้าเทียบกับการร่วมรักทางประตูหลังหรือทวารหนักนั้นไม่ว่าจะเป็นชายรักชาย หรือคู่รักชายหญิงที่ต้องการสร้างความแปลกใหม่โดยฝ่ายรับมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีมากถึง 138 ครั้ง ใน 10,000 ครั้ง ถ้าเทียบกับฝ่ายรุกที่เป็นเพศชายมีความเสี่ยงเพียง 11 ใน 10,000 ครั้ง (อ้างอิงจากบทความ รุกหรือรับฝ่ายไหนเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีมากกว่ากัน www.rama.mahidol.ac.th) นับว่าเป็นตัวเลขที่มากกว่าร้อยเท่าในฝ่ายรับที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักเมื่อเทียบกับฝ่ายรับที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด
ที่มา : www.pixabay.com
สาเหตุที่การมีเพศสัมพันธ์ทางประตูลังเสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวีมากกว่าเพราะเยื่อบุลำไส้ไม่แข็งแรงเมื่อเกิดการถลอกทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าช่องคลอดไม่มีน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติและยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆตามมาทั้งการเกิดมะเร็งเพราะรับเชื้อเอชพีวีจากการไม่สวมถุงยางอนามัยเกิดแผลในลำไส้ ในผู้หญิงอาจติดเชื้อทำให้มดลูก ปากมดลูก ปีกมดลูก และกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
ที่มา : www.pixabay.com
ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งไม่ว่าจะทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักต้องสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง โดยเฉพาะทางทวารหนักการมีเพศสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายยินยอมพร้อมใจ ไม่รุนแรง ควรใช้สารหล่อลื่นสำหรับทวารหนัก หากเกิดการบาดเจ็บควรหยุดทันที ควรพบแพทย์หากมีเลือดออกทางทวารจำนวนมากและไหลไม่หยุด และหากพบว่ามีเพศสัมพันธ์ที่เกิดความเสี่ยงทั้งถุงยางอนามัยแตก ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ สามารถเข้ารับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยไม่เปิดเผยตัวตนได้ที่ คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย เพื่อสุขภาพของคุณและคนที่คุณรัก
ที่มา : www.rama.mahidol.ac.th บทความ รุกหรือรับฝ่ายไหนเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีมากกว่ากัน
www.thestandard.co บทความ ข้อควรรู้ก่อนเปิดประตูหลัง
www.petcharavejhospital.com บทความ LGBTQ ความหลากหลายทางเพศที่ต้องเข้าใจ