กระทิงพุ่งชน! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทะยานเกือบ 190 จุด

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 32,485 จุด +188 จุด หรือ +0.58% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,939 จุด +40 จุด หรือ +1.04% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,398 จุด +329 จุด หรือ +2.52% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน ลงนามในร่างกฎหมายแพคเกจะเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในคืนที่ผ่านมา ส่งผลกลายเป็นกฎหมายสมบูรณ์แบบ และมีผลบังคับใช้ทันที

.

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 66.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.45% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 69.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.34% โดยในสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ทะยานขึ้นถึง 67.98 และ 71.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลตามลำดับ ทำสถิติราคาน้ำมันดิบตลาดโลกสูงสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือน สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกา ลดต่ำลงถึง 11.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่คาดไว้ ลงมาเหลือเพียง 231.6 ล้านบาร์เรล ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่าเล็กน้อย

.

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,722.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +2.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ผ่านมา สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่าเล็กน้อย และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นปรับลดลดต่ำลงจากสถิติสูงที่สุดในรอบ 1 ปี