จะฟื้นปีหน้า! อสังหาริมทรัพย์หรูภูเก็ตมีลุ้นฟื้นตัวปี 64 ท่ามกลางโควิดรอบ 3

511
0
Share:

บริษัท ซีบีอาร์อี (CBRE) ซึ่งเป็นธุรกิจนายหน้า ที่ปรึกษา และวิจัยอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เปิดเผยว่า แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงซบเซาเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด -19 ระลอกที่ 3 ในประเทศไทย แต่ซีบีอาร์อีพบว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีความเคลื่อนไหวของการซื้อขายโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่สอบถามเข้ามาเกี่ยวกับบ้านรูปแบบวิลล่าหรูเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2563 เป็นต้นมา โดยมาจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

.

สาเหตุจากจำนวนยูนิตของวิลล่าระดับบนยังคงมีจำนวนจำกัด เป็นผลจากการชะลอเปิดโครงการใหม่ของผู้ประกอบการในช่วงที่ผ่านมา สำหรับการพัฒนาวิลล่าหรูเหลืออยู่ไม่มาก นอกจากนี้ มาตรการล่าสุดของรัฐบาลสำหรับโครงการนำร่อง ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งจะเริ่มเดือนกรกฎาคมนี้ อาจจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้ภูเก็ตฟื้นตัวได้ภายในสิ้นปี 2564

.

นางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายบ้านพักตากอากาศ บริษัทซีบีอาร์อี กล่าวว่สความต้องการซื้อวิลล่า หรือบ้านพักตากอากาศระดับหรูที่เพิ่มขึ้นมานั้นมาจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก คือผู้ซื้อจากต่างประเทศที่มีกำลังซื้อสูง เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งกำลังมองหาบ้านหลังที่สอง หรือบ้านพักในวัยเกษียณในพื้นที่เขตร้อนหลังการแพร่ระบาดจบลง สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีความคุ้นเคยกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และตลาดภูเก็ตอยู่แล้ว

ส่วนกลุ่มที่สอง คือผู้ซื้อในประเทศไทยที่เป็นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย ซึ่งกำลังมองหาบ้านพักตากอากาศหรูทั้งเพื่อการเข้าพักอาศัยเองและเพื่อการลงทุนจากการที่ตลาดภูเก็ตเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงเวลาของการเป็นตลาดของ

.

รายงานของฝ่ายวิจัยซีบีอาร์อี พบว่า จากการประกาศเคอร์ฟิวและข้อกำหนดอื่น ๆ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ทำให้โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบางส่วนได้รับผลกระทบ โดยมีวิลล่าเพียง 5 หลังเท่านั้นที่แล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ส่งผลให้วิลล่าในตลาดภูเก็ตมีทั้งสิ้นเกือบ 4,300 หลัง

สำหรับตลาดวิลล่าหรูซึ่งมีราคามากกว่า 90 ล้านบาทต่อหลังนั้น แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2563 มีวิลล่าหรูทั้งหมด 320 หลัง โดยในปี 2564 จะมีเพียง 7 หลังที่จะแล้วเสร็จ และไม่มีซัพลลายใหม่ในปี 2565