จีนดัน“เซินเจิ้น”เป็นศูนย์กลางการเงิน

1061
0
Share:

สำนักข่าวพีเพิลส์เดลี่ของรัฐบาลจีนระบุว่า ทางการจีนประกาศแผนการที่จะพัฒนาเมือง “เซินเจิ้น” เป็นพื้นที่นำร่องตามแนวทางสังคมนิยมแบบจีน เพื่อเป็น “ศูนย์กลางทางการเงินนานาชาติแห่งใหม่” แทนที่ “ฮ่องกง” ที่กำลังเกิดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในเวลานี้
.
ตามเอกสารแถลงการณ์ระบุว่า แผนการที่จะพัฒนาเซินเจิ้นนั้นเป็นการพยายามปรับปรุงยุทธศาสตร์พัฒนาเขตเศรษฐกิจ “อ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า” และการเสริมสร้างแนวทาง “หนึ่งประเทศสองระบบ” โดยตั้งเป้าหมายให้เซินเจิ้นกลายเป็น “กลไกหลัก” ของเขตเศรษฐกิจดังกล่าว
.
โดยพื้นที่อ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าเป็นพื้นที่เศรฐกิจขนาดใหญ่ของจีน มีจำนวนประชากร 71.61 ล้านคน ซึ่งมีจีดีพีรวมกันในปี 2561 อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงเป็นอันดับสามรองจากพื้นที่อ่าวโตเกียวและเขตนครนิวยอร์ก ตามรายงานของสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง
.
ด้านนายเทียน เฟยหลง ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการฮ่องกงที่มหาวิทยาลัยเป่ยหังในกรุงปักกิ่งระบุว่า การประกาศแผนการดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกลางของจีนตัดสินใจว่า เซินเจิ้นควรจะเป็น กุญแจหลักในการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ของพื้นที่เศรษฐกิจเขตอ่าวดังกล่าว เนื่องจากการประท้วงที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 2 เดือนในฮ่องกงส่งผลกระทบต่อบริการสาธารณะและการดำเนินธุรกิจอย่างหนัก
.
ซึ่งเซินเจิ้นเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้ฮ่องกง แต่ภายหลังจากที่รัฐบาลจีนได้ดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศในระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจของเซินเจิ้นเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเซินเจิ้นมีอัตราการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ 7.5% แซงหน้าฮ่องกงที่เติบโต 3% ในปี 2561
.
ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทางการจีนตั้งเป้าว่าภายในปี 2568 เซินเจิ้นจะเป็นหนึ่งในเมืองชั้นนำของโลกในด้านความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ มีการสร้างผลงานวิจัยและการพัฒนา มีกำลังการผลิตอุตสาหกรรมเชิงนวัตกรรม และมีบริการสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีสภาพแวดล้อมของระบบนิเวศในระดับต้นๆ ของโลก
.
นอกจากนี้ในปี 2578 เซินเจิ้นจะเป็นเมืองต้นแบบที่มีการพัฒนาขั้นสูงให้กับเมืองอื่น ๆ ของจีน ขณะเดียวกันก็เป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม ภาคธุรกิจ และความคิดสร้างสรรค์ที่มีอิทธิในระดับนานาชาติ