ดาวโจนส์ปิดพุ่งเกือบ 250 จุด น้ำมันดิบปิดเกือบ 108 ดอลลาร์

318
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 35,160 จุด +249 จุด หรือ +0.71% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,459 จุด -2 จุด หรือ -0.06% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 13,453 จุด -166 จุด หรือ -1.22%

สาเหตุจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกขายมากที่สุดในภาพรวมการลงทุนหลังจากผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ท่ามกลางผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ที่ทยอยประกาศออกมายังคงเป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม เรือสำราญ สายการบิน มีราคาเพิ่มขึ้นหลังคำตัดสินของศาลแห่งรัฐฟลอริดาให้ยกเลิกการสวมใส่หน้ากากอนามัยบนระบบขนส่งมวลชนในสหรัฐอเมริกา

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 103.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +1% ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 107.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.6% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล ความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันดิบของรัสเซียและลิเบียที่จะมีน้อยลงในตลาดโลก ก่อนหน้านี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบราววันละ 3 ล้านบาร์เรลจากรัสเซียจะเริ่มหายจากตลาดโลกในเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกในปีนี้ลงเกือบ 1% รับผลพวงสงครามรัสเซียกับยูเครน กดดันความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกลดลง ท่ามกลางกลุ่มโอเปกพลัสเปิดเผยกำลังการผลิตในเดือนมีนาคมลดลงเหลือเพียง 1.45 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,957.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -0.07% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือตั้งแต่เมษายน ปี 2020 เป็นต้นมา หลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาเซนต์หลุยส์ มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอาจเพิ่มมากขึ้นถึง 0.75% รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ปรับสูงขึ้นครั้งใหม่