ด่วน! ไอเอ็มเอฟลดเป้าเศรษฐกิจโลกปี 65 แตะ 3.2% หากเลวร้ายที่สุดแตะ 2.6%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีโลกปี 2565 จากเดิมที่ระดับ 3.6% ลงเหลือที่ระดับ 3.2% ทำสถิติการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแค่ปี 1970 หรือในรอบ 52 ปีผ่านมา นอกจากนี้ ยังปรับลดจีดีพีในปี 2566 จากเดิมที่ระดับ 3.6% เหลือเพียง 2.9% สาเหตุจาก สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่ชัดเจน และความไม่แน่นอนมากมาย

ไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า ปัจจัยลบและความไม่แน่นอนที่ประเมินก่อนจะในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้กลายเป็นแนวโน้มด้านลบที่ชัดเจนต่อเนื่อง ท่ามกลางปัจจัยลบต่างๆ ได้แก่ เงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งสูง เศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ที่ตกต่ำอย่างเลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ไว้ และสถานการณ์สงครามรัสเซียกับยูเครนที่ไม่มีความชัดเจนของการยุติใดๆ

นอกจากนี้ ปัจจัยช็อคทางเศรษฐกิจหลายอย่าง ได้กระทบต่อเศรษฐกิจโลกให้อ่อนแอลงแล้ว โดยได้รับปัจจัยลบ เช่น วิกฤตโรคระบาด อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่สูงอย่างมาก โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาและในยุโรป การใช้นโยบายการเงินตึงตัวอย่างรวดเร็ว

การคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีที่ตกต่ำลงดังกล่าว อาจทำสถิติอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจแท้จริงหดตัวลงในแง่รายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หรือตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ที่สำคัญ คือ มีความเป็นไปได้ แต่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่อนข้างน้อยที่จะได้เห็นเศรษฐกิจโลกขยายตัวทรุดต่ำลงแตะที่ระดับ 2.6% และ 2.3% ในปี 2565 และปี 2566 ตามลำดับ ซึ่งจะกลายเป็นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำใน 10% จากจีดีพีท้ายสุด ซึ่งทำสถิติเลวร้ายที่สุดในรอบ 52 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1970

ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดเป้าจีดีพีจากเดิมที่ระดับ 3.7% ลดลงมากถึง 1.4% มาเหลือเพียง 2.3% สาเหตุจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกที่ลดต่ำลงมาก กำลังซื้อของประชาชนชาวอเมริกันทรุดต่ำลง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สำหรับเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปี 2565 นั้น ถูกปรับลดลงมากถึง 1.1% ส่งผลให้จีดีพีเดิมทรุดลงจากเดิมที่ระดับ 4.4% เหลือเพียง 3.3% ทำสถิติเศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำสุดในรอบ 40 ปี สอดคล้องกับเศรษฐกิจอินเดีย ได้รับการปรับลดจีดีพีลงจากเดิมที่ระดับ 8.2% ลงมาแตะที่ระดับ 7.4% หรือลดลง 0.8%

อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟกลับเพิ่มตัวเลขจีดีพีของเศรษฐกิจรัสเซียขึ้น 2.5% ในปี 2565 แต่ยังคงส่งผลให้เศรษฐกิจรัสเซียตกต่ำอย่างรุนแรงในระดับ -6.0% จากเดิมที่มีจีดีพีย่ำแย่หนักถึง -8.5% สาเหตุจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจรัสเซียในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ กลับลดต่ำลงน้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงของนานาชาติจากโลกตะวันตกเป็นหลัก

ในแง่อัตราเงินเฟ้อทั่วโลก ไอเอ็มเอฟปรับเพิ่มภาวะเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วขึ้นเป็น 6.6% จากเดิมที่ระดับ 5.7% หรือเพิ่มขึ้น 0.9% และของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ขึ้นเป็น 9.5% จากเดิมที่ระดับ 8.7% หรือเพิ่มขึ้น 0.8% สำหรับภาวะเงินเฟ้อที่จะกลับคืนสู่ปกตินั้น จะต้องใช้เวลาอีกราว 2 ปีครึ่ง หรือในช่วงสิ้นปี 2024

ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟประเมินว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยมีเพิ่มสูงขึ้นที่จะเกิดในปี 2023