ตกงานอื้อ! บริการรถร่วมเดินทางชื่อดังปลดพนักงานกว่า 26% ตกงานกว่า 1,000 คนในสหรัฐ
ลิฟท์ (Lyft) ธุรกิจให้บริการเรียกรถร่วมเดินทางชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญกับอูเบอร์ (Uber) เปิดเผยว่า เตรียมดำเนินการตามนโยบายตัดลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่องด้วยการปลดพนักงาน 1,072 คน หรือ 26% ของพนักงานทั้งหมด นอกจากนี้ ประกาศยกเลิกการเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งใหม่กว่า 250 ตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน ผ่านมา ลิฟท์ เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานมากกว่า 1,300 คน หรือกว่า 30% ของพนักงานในปัจจุบันที่มีประมาณ 4,000 คน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ลิฟท์ นายเดวิด ริชเชอร์ กล่าวว่า การปลดพนักงานครั้งสำคัญที่สุดในครั้งนี้ ก็เพื่อทำให้บริษัทกลายเป็นองค์กรที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และลดความอุ้ยอ้ายของการทำงานไปถึงการจัดการ ซึ่งพนักงานทุกคนล้วนให้บริการที่ใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการ โดยส่วนตัวแล้ว การตัดสินใจครั้งนี้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบอย่างมาก และเข้าใจอย่างดีว่าย่อมต่มมมาด้วยต้นทุนมหาสาร ซึ่งหมายถึงความผูกพัน และความสัมพันธ์ที่ดีที่มีให้กันมาอย่างยาวนาน
ซีอีโอ ลิฟท์ นายเดวิด ริชเชอร์ คาดว่า จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 41-47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,435-1,645 ล้านบาทในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ จากมาตรการปลดพนักงานในรอบนี้
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ลิฟท์ประกาศนโยบายปลดพนักงานเป็นสัดส่วน 13% ของพนักงานที่มีอยู่ทั้งหมดในช่วงเวลานั้นด้วยเหตุผลว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีความเสี่ยงสูงค่อการเกิดภาวะถดถอย
สำหรับธุรกิจบริการเรียกรถร่วมเดินทางในสหรัฐอเมริกานั้น มีการแข่งขันมาอย่างยาวนาน และรุนแรงตลอดเวลา อูเบอร์เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพรายแรกๆที่ให้บริการดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาและขยายครอบคลุมทั่วโลกจนกระทั่งต้องทบทวนทิศทางของธุรกิจกันใหม่เมื่อเผชิญกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 และเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้อูเบอร์ต้องลดพนักงาน และเปลี่ยนไปให้บริการจัดส่งอาหารและเครื่องดื่ม
ในขณะที่ ลิฟท์ ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญกลับยังคงปักหลักในบริการร่วมเดินทางมาตลอดเวลา ส่งผลให้ลิฟท์ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากมากกว่าอูเบอร์จากปัจจัยลบเดียวกัน เนื่องจากลิฟท์ไม่กระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจบริการในรูปแบบอื่นๆบนพื้นฐานการใช้รถยนต์
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของลิฟท์ดำดิ่งอย่างรุนแรงถึง -70% ในปีผ่านมา ในขณะที่การประกาศปลดพนักงานมากกว่า 1,300 คนในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นลิฟท์เพิ่มขึ้นราว 6% ในคืนผ่านมา
