ตะลึงภาวะ ”เงินค่าทิปร่วงโรย“ คนอเมริกันยอมเสียมารยาท จ่ายค่าทิปต่ำกว่ามาตรฐานปกติ

194
0
Share:
ตะลึงภาวะ ”เงิน ค่าทิป ร่วงโรย“ คนอเมริกัน สหรัฐ ยอมเสียมารยาท จ่ายค่าทิปต่ำกว่ามาตรฐานปกติ

ศูนย์วิจัย พิว รีเสิร์ช (Pew Research Center) ซึ่งเป็นสถาบันทำการวิจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองชื่อดังในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลสำรวจการจ่ายเงินค่าทิป (Tip) เมื่อใช้บริการในร้านอาหารท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่มีสัญญาณชะลอตัว โดยปกติตามธรรมเนียม หรือเป็นมรรยาทของสังคมสหรัฐ การจ่ายค่าทิปจะอยู่ที่ขึ้นต่ำ 15% ถึงสูงสุด 20% ของค่าบริการและค่าอาหารรวมกันในร้านอาหาร แต่กลับพบว่า ทุกวันนี้คนอเมริกันเกือบ 1 ใน 5 หรือราว 18% จ่ายค่าทิปต่ำกว่า 15% สำหรับรายการอาหารเฉลี่ยต่อหนึ่งรายการที่ต้องนั่งรับประทานในร้านอาหาร ที่น่าสนใจ คือ มี 2% ที่ไม่จ่ายค่าทิปให้กับร้านอาหารเลย ในขณะที่มี 37% มองว่าการจ่ายเงินค่าทิปที่ 15% เป็นมาตรฐานค่าทิปอยู่แล้ว

นายดริว เดซิลเวอร์ ผู้ร่วมจัดทำรายงานผลสำรวจนี้ กล่าวว่า กลายเป็นเรื่องที่ประหลาดใจมากเมื่อพบว่า ในภาพรวม คนอเมริกันเกินครึ่งหนึ่ง หรือ 57% จ่ายเงินค่าทิปเพียง 15% หรือน้อยกว่า 15% เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการปลูกฝังวัฒนธรรมการจ่ายเงินค่าทิปเพื่อแสดงความมีน้ำใจต่อการบริการในร้านอาหาร มากกว่าทุกประเทศทั่วโลกมาเป็นเวลานาน แต่ปัจจุบัน กลับกลายเป็นข้อถกเถียงในการจ่ายเงินค่าทิปที่ต้องรักษามาตรฐานการจ่ายอีกต่อไปหรือไม่

มรรยาทหรือธรรมเนียมปฏิบัติของคนอเมริกันในการใช้บริการภายในร้านอาหารในสหรัฐอเมริกานั้น คนอเมริกันจะจ่ายเงินค่าทิปให้กับการนั่งรับบริการในร้านอาหารมากกว่าการใช้บริการในธุรกิจประเภทอื่นๆ สถาบันวิจัยแบงค์เครท (Bankrate) เปิดเผยว่า 2 ใน 3 หรือราว 67% ของคนอเมริกันวัยผู้ใหญ่จ่ายเงินค่าทิปเป็นประจำให้กับพนักงานในร้านอาหาร สอดรับกับผลสำรวจของพิว รีเสิร์ช พบว่า 81% ของคนอเมริกันจ่ายเงินค่าทิปสำหรับการนั่งทานในร้านอาหารมากกว่าจ่ายเงินค่าทิปให้กับช่างตัดผมในร้านตัดผม บริการส่งอาหารหรือเดลิเวอรี จ่ายค่านั่งดื่มที่เคาเตอร์บาร์ ใช้บริการรถแท็กซี่ หรือเรียกบริการรถร่วมเดินทาง

ขณะนี้เกิดภาวะที่เรียกว่า เงินค่าทิปร่วงโรย หรือ Tip Fatigue ในสหรัฐอเมริกา โทสต์ ดาต้า (Toast Data) เปิดเผยสาเหตุมาจากในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ค่าเฉลี่ยเงินค่าทิปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาในการใช้บริการในร้านอาหารมีบริการแบบเต็มรูปแบบนั้น ทรุดลงมากถึง -19.4% ของจำนวนค่าบริการและอาหารรวมทั้งหมด ทำสถิติเงินค่าทิปที่ตกต่ำมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นเกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในปี 2019 หรือในรอบ 4 ปีผ่านมา

นอกจากนี้ สถาบันวิจัยแบงค์เครท (Bankrate) ยังพบว่า สัดส่วนของคนอเมริกันที่จ่ายเงินค่าทิปเป็นประจำทุกครั้งให้กับพนักงานที่มีหน้าที่ยืนรอจัดคิวรับประทานของร้านอาหารของลูกค้า พบว่ามีสัดส่วนลดลง 4% ในช่วงระยะเวลา 4 ปีผ่านมา

ไมเคิล ลินน์ ศาสตราจารย์ประจำแห่งคณะบริหารจัดการการโรงแรม มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell University) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาพฤติกรรมและการจ่ายเงินค่าทิปของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า คนอเมริกันมีความเต็มใจที่จะจ่ายเงินค่าทิปลดลงถึงแม้จะเป็นมรรยาทปฏิบัติกันมาเมื่อเข้าไปนั่งทานอาหารภายในร้านอาหาร คนอเมริกันเผชิญปัจจัยลบทางเศรษฐกิจสหรัฐมาต่อเนื่องจนรู้สึกไม่สามารถจะฝืนต่อไปได้ ทั้งๆที่ในช่วงเริ่มต้นของโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกานั้น คนอเมริกันกลายเป็นลูกค้าที่ใจดีมากๆกับการจ่ายเงินค่าทิปให้กับพนักงาน ให้กับบริการของเจ้าของร้านอาหาร ซึ่งกลายเป็นพฤติกรรมร่วมที่ดีในการช่วยเหลือพนักงานและเจ้าของกิจการให้อยู่รอด

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัย พิว รีเสิร์ช เปิดเผยต่อไปว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่มากถึง 77% ให้ความสำคัญกับคุณภาพในการให้บริการ เมื่อต้องตัดสินใจเลือกระหว่างจะให้ หรือไม่ให้เงินค่าทิป ถ้าให้ค่าทิป จะต้องให้จำนวนมากน้อยแค่ไหน ในขณะที่มีเพียง 23% ที่ยอมรับว่าแรงกดดันในสังคมที่มีต่อคนที่ไม่จ่ายเงินค่าทิปเป็นปัจจัยหลักในการจ่ายเงินค่าทิป การสำรวจในครั้งนี้ จัดทำขึ้นกับกลุ่มตัวอย่างจำนวนที่เป็นคนอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 11,945 คนทั่วสหรัฐอเมริกา