ธนาคารยูบีเอสชี้ถ้าน้ำมันดิบแตะ 100 ดอลลาร์ คนเลิกลาออก จะหวนกลับไปทำงานออฟฟิศ

418
0
Share:
น้ำมัน

นายพอล โดโนแวน นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารยูบีเอส เปิดเผยว่า กลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อยมีความเปราะบางกับราคาพลังงานที่พุ่งสูงในขณะนี้ ดังนั้นอาจเกิดผลกระทบทางอ้อมที่ไม่ปกติเมื่อราคาน้ำมันดิบตลาดโลกขึ้นไปแตะระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ถ้าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งสูงต่อเนื่องไปถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ไม่เพียงจะเกิดภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงต่อเนื่อง แต่จะทำให้อัตราการลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ลดลง และยังทำให้ภาวะ Great Resignation หรือภาวะคนรุ่นใหม่ลาออกไปเพื่อทำงานอิสระ จะลดลงด้วยเช่นเดียวกัน

นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารยูบีเอส เปิดเผยว่า กลุ่มมนุษย์วัยทำงานระหว่าง 16-24 ปี หรือเรียกว่าคนรุ่นติ๊กตอก (TikTok Generation) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับตั้งแต่เกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 และนำไปสู่การทำงานที่บ้านรวมถึงมีความยืดหยุ่นในเวลาทำงานจากที่บ้านนั้น แทบไม่แสดงความสนใจที่อยากจะทำงานในตลาดการจ้างงานทั่วไป แต่ผลพวงจากราคาน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปมีราคาแพงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีนี้ กำลังส่งผลให้คนกลุ่มวัยติ๊กตอกตัดสินใจกลับเข้าไปสมัครงานในตลาดการจ้างงาน

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงไม่มีแนวโน้มจะปรับลดลงแต่อย่างใด คืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 88.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.06 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในช่วงระหว่างวันเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 89.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 หรือในรอบ 7 ปี 2 เดือน เช่นเดียวกันกับด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 89.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยในกลางสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์พุ่งสูงสุดระหว่างวันถึงกว่า 91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล