ธปท. เผยไตรมาส 3 ธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 28,000 ล้านบาท หลังธนาคารเข้าช่วยเหลือลูกค้า

605
0
Share:

นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยผลการดำเนินงานธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3/63 ที่ผ่านมาว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 28,000 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรกของปีกำไรสุทธิ 130,400 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน จากการกันสำรองในระดับสูงต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรองรับแนวโน้มคุณภาพสินเชื่อที่อาจด้อยลงในระยะต่อไป
.
ทั้งนี้ภาพรวมสินเชื่อในไตรมาส 3 ขยายตัวที่ 4.6% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวได้ 5% ขณะที่ 9 เดือนขยายตัว 3.9% โดยสินเชื่อธุรกิจขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากธุรกิจขนาดใหญ่บางส่วนระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้และหุ้นเพิ่มทุนแทนการใช้สินเชื่อธนาคารพาณิชย์
.
ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีหดตัวในอัตราที่ลดลงจากผลของมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ Soft Loan และการทยอยฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ด้านสินเชื่ออุปโภคบริโภค ขยายตัว 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
.
ด้านคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3 ยังคงได้รับผลจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และการผ่อนปรนเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ โดยยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือ NPL อยู่ที่ 513.9 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.14% ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 3.09% โดยแนวโน้ม NPL ยอมรับว่า ตัวเลข NPL คงทยอยเพิ่มขึ้น หากลูกค้าที่ยังติดต่อได้ ธนาคารพาณิชย์ยินดีช่วยเหลือเต็มที่เพราะไม่อยากให้ NPL เพิ่มขึ้น แต่ก็อาจจะมีบางธุรกิจที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้จริงๆ แต่คงไม่ได้เป็นก้อนใหญ่ แต่แบงก์ก็มีสำรองเผื่อรองรับไว้สำหรับกลุ่มนี้อยู่แล้ว กลุ่มที่น่าห่วงคือ กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี มีความเปราะบาง สายป่านสั้น เงินทุนไม่หนา
.
สำหรับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (ROA) ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.52% จากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 0.6% และอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (NIM) ลดลงมาอยู่ที่ 2.55% จากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 2.6% ซึ่งเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อที่ลดลงเป็นสำคัญ
.
อย่างไรก็ตาม ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,959 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ 19.8% เงินสำรองอยู่ในระดับสูงที่ 782.5 พันล้านบาท โดยอัตราส่วนเงินสำรองที่มีต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 149.7% และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤติอยู่ที่ 184.9%
.
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ในปีนี้ ยืนยันว่า ยังมีผลประกอบการเป็นกำไร แต่อาจจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถาบันการเงินได้เข้าไปช่วยเหลือลูกค้า ทั้งการลดดอกเบี้ย การปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงการกันสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญด้วย ขณะที่สินเชื่อคาดว่าจะขยายตัวได้ 3-5%