นับถอยหลัง 21 ก.ค.ขึ้นภาษีดีเซล สรรพสามิต คาดราคาขายไม่ขยับขึ้นจาก 32 บาทต่อลิตร

275
0
Share:
นับถอยหลัง 21 ก.ค.ขึ้น ภาษี ดีเซล สรรพสามิต คาดราคาขายไม่ขยับขึ้นจาก 32 บาทต่อลิตร

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมเสนอแพ็กเกจ ปรับบทบาทการจัดเก็บภาษี มาเป็นการลดภาษีเพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจ เช่น อีวี การใช้ภาษีสรรพสามิตดูแลสุขภาพ ลดความหวาน ความเค็มในอาหาร ขนมขบเคี้ยว ส่วนการลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาท/ลิตร ครบกำหนด 20 ก.ค.นี้ ยอมรับว่า รัฐบาลใช้เงินดูแลผ่านการลดภาษีไปแล้ว 1.58 แสนล้านบาท เมื่อราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง จึงต้องหารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อเน้นการใช้กองทุนน้ำมันฯ เป็นกลไกสำคัญช่วยดูแล

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลงมาเหลือเฉลี่ย 70 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรลแล้ว ทำให้แรงกดดันที่จะผลักภาระไปให้ผู้บริโภคก็น้อยลง โดยปีที่แล้วราคาน้ำมันแพงขึ้นไปถึง 100 ดอลลาร์ฯ/บาเรล รัฐบาลใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จนกองทุนฯ มีสถานะติดลบเป็นแสนล้านบาท จึงใช้กลไกการลดภาษีมาช่วย ซึ่งจากการลดภาษีมาปีกว่า ภาษีก็หายไปกว่าแสนล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ และภาษี เหมือนเป็นกระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวา ซึ่งขณะนี้ฐานะของกองทุนน้ำมันฯ ก็ดีขึ้นแล้ว ก็ต้องหารือว่า ภาษีจะทำอย่างไร

ทั้งนี้ ผลการศึกษาจาก World Bank และสถาบัน TDRI มองว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องรักษาความมั่นคงฐานะการคลังไว้ อาจจะต้องหันไปทำเป็นนโยบายเฉพาะกลุ่ม (Target Policy) ดีกว่า และการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ต้องใช้อำนาจจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งขณะนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ จึงต้องไปดูข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่หากใช้กลไกของกองทุนน้ำมันฯ ก็สามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องเสนอเข้า ครม.

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานว่า ขณะนี้เงินไหลเข้าบัญชีน้ำมัน ในกองทุนน้ำมันฯ ขยับดีขึ้นมาก ล่าสุดวันที่ 2 ก.ค. 66 กองทุนฯ ภาพรวมติดลบประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท แยกเป็นติดลบบัญชีน้ำมันเพียง 9,180 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม ติดลบสูงถึง 45,828 ล้านบาท ซึ่งหากกระทรวงการคลังจัดเก็บภาษี ไม่ว่าจะเป็นการทยอยขึ้นหรือขึ้นทีเดียว 5 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันดีเซลก็จะไม่ขึ้นไปอีก จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 32 บาท/ลิตร แต่หากทยอยขึ้นภาษี ประกอบกับราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในเกณฑ์ต่ำต่อเนื่อง ก็มีโอกาสจะลดราคาดีเซลลงมาได้