นายกฯ ประยุทธ์ปลื้ม 4 มาตรการแก้ค่าครองชีพได้ผล จ่อเปิดคนละครึ่งเฟส 4 มีนาคมนี้

461
0
Share:
นายก

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รู้สึกยินดีที่กระแสตอบรับจากประชาชนพอใจและชื่นชอบมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 ปี 2564 ของรัฐบาล โดยทั้ง 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สิ้นสุดระยะเวลาการใช้จ่ายไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้รายงานตัวเลขยอดการใช้จ่ายมีผู้ใช้สิทธิสะสมทั้ง 4 โครงการรวม 41.5 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสมทั้งหมด 254,281.7 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้ 1) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 13.55 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 24,010 ล้านบาท 2) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 1.51 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 2,183.3 ล้านบาท 3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 26.35 ล้านราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวน 27.98 ล้านราย และมีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 4,500 บาท แล้วกว่า 10.87 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 223,921.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 113,936 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 109,985.8 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 88,712.9 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 36,037 ล้านบาท ร้าน OTOP 10,843.2 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 84,160.7 ล้านบาท ร้านบริการ 3,900.1 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 267.9 ล้านบาท และ 4) โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีประชาชนผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 91,952 ราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวนกว่า 4.9 แสนราย โดยมียอดใช้จ่ายสะสมส่วนประชาชน 3,827.4 ล้านบาท มีมูลค่าการใช้จ่ายสะสมที่นำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher 3,064 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าสะสม e-Voucher ทั้งสิ้นกว่า 353.8 ล้านบาท และมูลค่าการใช้จ่ายสะสมส่วน e-Voucher 339.2 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมรวมส่วนประชาชนและ e-Voucher

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีมาตรการช้อปดีมีคืน 2565 ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 ซึ่งจะยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566 โดยผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ที่เพิ่งสิ้นสุดโครงการไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.64 สามารถไปใช้โครงการสิทธิ์ช้อปดีมีคืนได้ และล่าสุด ครม. ได้เห็นชอบโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 แล้ว มอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทยขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมมาตรการและการปรับปรุงระบบ ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.- 30 เม.ย.2565 นายธนกร กล่าวว่าเบื้องต้นผู้ได้สิทธิในโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” จำนวน 27.98 ล้านราย ต้องกดยืนยันตนอีกครั้ง ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ส่วนผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนจะต้องสมัครผ่านทางเว็บไซต์ คนละครึ่ง.com เหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจะนำผลการดำเนินโครงการตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 ปี 2564 พิจารณาปรับปรุงเพื่อออกแบบโครงการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่ผู้ที่ใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืน สามารถใช้สิทธิ์มาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.-30 เม.ย.65 ได้อีก เพราะช่วงเวลาไม่ทับซ้อนกัน