ปี 66 ไทยครองแชมป์ประเทศซื้อทองคำสูงสุดในอาเซียน จีนยืนหนึ่งซื้อทองคำมากสุดในเอเชียช่วง 5 ปีผ่านมา

364
0
Share:
ปี 66 ไทย ครองแชมป์ประเทศ ซื้อ ทองคำ สูงสุดในอาเซียน จีนยืนหนึ่งซื้อทองคำมากสุดในเอเชียช่วง 5 ปีผ่านมา

สภาทองคำโลก หรือ World Gold Council เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตของความต้องการทองคำผู้บริโภคสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยเพิ่มขึ้นถึง 9% เมื่อเทียบจาก 38.4 ตันในปี 2565 ขึ้นมาเป็น 42.1 ตันในปี 2566 ที่ผ่านไป สาเหตุจากความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าความต้องการทองคำแบบเครื่องประดับที่ลดน้อยถอยลง

เมื่อพิจารณาความต้องการทองคำของธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลก ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2562-2566) จะพบว่าจีนมีความต้องการสูงสุดที่ 383 ตัน รองลงมา ตุรกี 287 ตัน สาธารณรัฐโปแลนด์ 230 ตัน รัสเซีย 220 ตัน อินเดีย 203 ตัน สิงคโปร์ 103 ตัน ส่วนไทยอยู่อันดับ 7 ของโลก 90 ตัน

ด้านภาพรวมความต้องการทองคำในระดับโลก ซึ่งไม่รวมการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ (Over-the-Counter หรือ OTC) ตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่จำนวน 4,448 ตัน ในปี 2566 ปรับลดลงเพียง 5% จากปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่มีการเติบโตแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เมื่อพิจารณาปัจจัยความต้องการจากตลาดซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ และแหล่งที่มาอื่น ๆ เข้าด้วยกัน พบว่าความต้องการโดยรวมของปี 2566 ได้เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดที่จำนวน 4,899 ตัน

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 สมาคมค้าทองคำประกาศราคาขายทองคำ วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 เพิ่มขึ้น +400 บาท ทำให้ทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 35,100 บาท ขายออกบาทละ 35,200 บาท ราคาทองคำรูปพรรณรับซื้อบาทละ 34,473.84 บาท และขายออกบาทละ 35,700 บาท ส่งผลทำสถิติราคาทองคำปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์วันที่ 2 อีกด้วย โดยสถิติเดิมเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2567 มีราคาปรับขึ้นสุทธิ +150 บาท ส่งผลทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 34,700 บาท ขายออกบาทละ 34,800 บาท ราคาทองคำรูปพรรณรับซื้อบาทละ 34,079.68 บาท และขายออกบาทละ 35,300 บาท