ม.ออกซ์ฟอร์ดชัดพันธุ์เดลต้าสะกัดไม่ให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ไม่มีอะไรหยุดแพร่เชื้อจากคนฉีดวัคซีนไปคนอื่นๆ

400
0
Share:

เซอร์ แอนดริว พอลลาร์ด ศาสตราจารย์โรคติดเชื้อระบาดในเด็ก และภูมิคุ้มกัน แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาสหราชอาณาจักรว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เพื่อหวังให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่นั้น ไม่มีความเป็นไปได้ในขณะนี้ สาเหตุจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดียที่แพร่ระบาดจนกลายเป็นสายพันธุ์หลัก

ขณะนี้เป็นที่รู้กันดีและชัดเจนแล้วว่า เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์เดลต้า จะยังคงแพร่ระบาดติดเชื้อในคนที่ถึงแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และรวมไปถึงคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเช่นกัน

สภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ดูเหมือนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ กล่าวได้ว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นั้น ในคราวต่อไปบางทีอาจจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ดีขึ้นในร่างกายของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายประเมินและคาดหวังว่าภาวะภูมิคุ้มกันหมู่อาจจะสามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งเหมือนกันกับโรคหัดซึ่งมีการติดเชื้อที่สูงมากในอดีตที่ผ่านมา สำหรับโรคระบาดหัดนั้น หลายประเทศสร้างภูมิคุ้มกันหมู่โดยการฉีดวัคซีนครอบคลุมถึง 95% ของจำนวนประชากรในแต่ละประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และยุติโรคระบาดหัดในปี 2000 หรือเมื่อ 21 ปีผ่านมา แต่ในครั้งนั้น คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งแตกต่างจากโรคระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน

เนื่องจากวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่ผลิตในปัจจุบันมีเป้าหมายหลักในการป้องกันโรคระบาดที่รุนแรง และข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC ทำให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วตรวจพบติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า จะมีโอกาส 25% ที่จะไม่เจ็บป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิต ในขณะที่คนจำนวนมากที่ได้รับวัคซีนซึ่งติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้านั้น จะมีอาการปานกลาง หรือไม่พบการแสดงอาการเลย

เซอร์ แอนดริว พอลลาร์ด กล่าวทิ้งท้ายว่า เราไม่มีอะไรเลยที่จะสามารถหยุดยั้งการติดเชื้อจากผู้ที่ได้รับวัคซีนไปยังคนอื่นๆ